อิสราเอล เป็นประเทศที่มีความหลากหลายทั้งในแง่วัฒนธรรม ภาษา และสังคม ในบทความนี้เราจะได้สำรวจข้อมูลและข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับประเทศนี้ ที่อาจทำให้คุณเข้าใจและรู้จักอิสราเอลอย่างลึกซึ้งมากขึ้น
ประชากรและสังคม: ประชากรของอิสราเอลประมาณ 9.4 ล้านคนตามสถานะณ วันที่ 31 ธันวาคม 2564 โดยมีร้อยละ 90 อาศัยในเขตเมืองที่ทันสมัย และร้อยละ 6 อาศัยในชนบทโดยเป็นสมาชิกสหกรณ์ อีกทั้งมีชาวอิสราเอลจากหลายชาติพันธ์ ทั้งชาวยิว และชนอาหรับพื้นเมือง รวมถึงชาวยิวที่อพยพมาจากยุโรป แอฟริกา เอเชีย และประเทศตะวันออกกลางอื่น ๆ ประชากรส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในเมืองใหญ่ ๆ เช่น เทลอาวีฟ เยรูซาเล็ม และไฮฟา ที่เหลือกระจัดกระจายตามพื้นที่การเกษตรทั่วประเทศ การนับถือศาสนาส่วนใหญ่คือยูดาย (Judaism) โดยร้อยละ 79.8 และมีการนับถือศาสนาอิสลาม (14 %) และคริสต์ (2 %) อีกด้วย
ภาษา: ในอิสราเอล ภาษาฮิบรู (Hebrew) เป็นภาษาราชการ ภาษาอารบิก (Arabic) ถูกใช้โดยชาวอิสราเอลเชื้อสายอาหรับ อีกทั้งประชาชนส่วนใหญ่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ดี
ภูมิประเทศและภูมิอากาศ: อิสราเอลมีภูมิประเทศหลายลักษณะ ราบชายฝั่งทะเล (ภาคตะวันตก) หุบเขาเทือกเขา (ภาคตะวันออก) และทะเลทราย (ภาคใต้) ทะเลสาบ Dead Sea บริเวณภาคใต้ถือว่าเป็นจุดที่อยู่ต่ำสุดของโลก พื้นที่รวมของอิสราเอลและปาเลสไตน์มีความยาวประมาณ 470 กิโลเมตร และมีความกว้างสูงสุด 135 กิโลเมตร อุณหภูมิเฉลี่ยระหว่าง 8 - 36 องศา เซลเซียส และมีฝนตกประมาณปีละ 64 วัน ปริมาณฝนเฉลี่ยปีละ 539 มิลลิเมตร
การเมือง: นายกรัฐมนตรีคนปัจจุบันของอิสราเอลคือนาย Yair Lapid
วันหยุด: วันหยุดที่สำคัญของอิสราเอลคือศุกร์ (บ่าย) และเสาร์ (ทั้งวัน)
อัตราแลกเปลี่ยน: 1 เชคเกล = ประมาณ 10 บาท
การคมนาคม: รถสาธารณะหยุดให้บริการในวันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดนักขัตฤกษ์
ห้างสรรพสินค้า: ห้างสรรพสินค้าปิดบ่ายวันศุกร์และวันเสาร์
ไปรษณีย์:- วันอาทิตย์ - พฤหัสบดี เปิดทำการเวลา 08.30 - 13.00 น.
- วันศุกร์ เปิดทำการเวลา 08.00 - 12.00 น.
ธนาคาร:- วันจันทร์ และพฤหัสบดี เปิดทำการ 08.30 - 13.00 น. และ 16.30 - 19.00 น.
- วันอังคาร พุธ และอาทิตย์ เปิดทำการ 08.30 - 13.00 น.
- วันศุกร์ เปิดทำการระหว่าง 08.00 - 12.00 น.
วัฒนธรรม: อิสราเอลมีวัฒนธรรมทั้งเก่าและใหม่ผสมผสานกัน วัฒนธรรมโบราณของยิวที่เก่าแก่กว่า 4000 ปี และวัฒนธรรมใหม่ที่เกิดจากการหลั่งไหลของชาวยิวจากทั่วโลกที่กลับเข้าไปตั้งถิ่นฐานในอิสราเอลหลังจากการก่อตั้งรัฐอิสราเอลเมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2491
ข้อมูลแรงงาน:- ระบบการว่าจ้างแรงงานต่างชาติในอิสราเอลต้องได้รับวีซ่าแก่นายจ้างเพื่อจำกัดโควต้าการจ้างแรงงานต่างชาติ และการเปลี่ยนนายจ้างต้องมีวีซ่าว่างเพื่อรับโอน แรงงานเก่าไม่จำเป็นต้องเซ็นยินยอมให้คนงานย้ายโอนงาน
- แรงงานต่างชาติสามารถทำงานในอิสราเอลไม่เกิน 5 ปี (เว้นแต่งานดูแลผู้สูงอายุและคนพิการซึ่งไม่จำกัดจำนวนปี)
- ค่าแรงขั้นต่ำของอิสราเอลสำหรับแรงงานคือ 5,300 เชคเกลต่อเดือน (ต่อการทำงานปกติ 186 ชั่วโมงต่อเดือน)
- ค่าจ้างล่วงเวลา: แรงงานที่ทำงานเกินวันละ 8 ชั่วโมงได้รับค่าล่วงเวลาตั้งแต่ชั่วโมงที่ 9 เป็นต้นไป โดยร้อยละ 125 ของค่าจ้างปกติ ส่วนชั่วโมงที่ 3 เป็นต้นไปจะได้รับค่าล่วงเวลาร้อยละ 150 ของค่าจ้างปกติ
คำแนะนำในการทำงาน:- ตั้งใจปฏิบัติงานด้วยความขยันขันแข็ง
- มีความซื่อสัตย์สุจริต
- เป็นมิตรกับนายจ้างและคนท้องถิ่น
- สามัคคีและช่วยเหลือคนไทยด้วยกัน
- ปฏิบัติตามกฎหมายท้องถิ่น และเว้นการดื่มสุรา
- ละเว้นการทะเลาะวิวาท/ทำร้ายร่างกาย
- ละเว้นการเสพและจำหน่ายสิ่งเสพติด
- ละเว้นการเล่นการพนัน
- ละเว้นการล่าสัตว์ทุกชนิด
ข้อพึงระมัดระวัง:การเป็นแรงงานผิดกฎหมายมีเหตุจากการกระทำ ดังนี้
- เปลี่ยนนายจ้างเองโดยพละการ
- วีซ่าขาดอายุ ควรเตือนให้นายจ้างต่อวีซ่าก่อนวันหมดอายุ
- การขอใบรายการจ่ายเงินเดือนหรือสลิปเงินเดือนจากนายจ้าง หากนายจ้างไม่ออกให้แรงงานจัดทำหลักฐานการทำงานและการคิดค่าจ้างด้วยตนเองโดยให้เพื่อนร่วมงานลงชื่อรับรองไว้เป็นหลักฐานได้
- บริษัทจัดหางานไม่มีอำนาจเรียกเก็บเงิน หรือ โฉนดเพื่อประกันการหนีสัญญาจ้างแรงงานซึ่งถูกเรียกเก็บเงิน แรงงานสามารถขอรับเงินคืนจากบริษัทจัดหางานที่เกี่ยวข้อง หากบริษัทไม่ให้ความร่วมมือ สามารถยื่นร้องทุกข์ที่กรมการจัดหางาน หรือ จัดหางานจังหวัดที่เกี่ยวข้อง
- ขอให้ระมัดระวังอันตรายที่อาจเกิดจากการลอบก่อวินาศกรรมในพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วอิสราเอล ทั้งร้านอาหาร แหล่งชุมชนอื่น ๆ ป้ายรถเมล์ หรือบนรถเมล์ และติดตามข่าวสารด้านความปลอดภัยอย่างใกล้ชิด
- หากมีปัญหาด้านแรงงาน กรุณาแจ้งบริษัทจัดหางานที่ดูแล หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ โปรดแจ้งสถานเอกอัครราชทูต ฯ หมายเลขโทรศัพท์ (972-9) 954-8412 หรือ 954-8431-3 หรือฝ่ายแรงงานฯ หมายเลขโทรศัพท์ (972-9) 954-8431-3
คนอิสราเอล ต้องเป็นทหารทุกคนเนื่องจากมีระบบการเกณฑ์ทหารทั้งทหารบกและทหารทางอากาศ (IDF) ที่เรียกว่า "חובת שירות" หรือ "ระหว่างงาน" ในภาษายבริת (עברית) ซึ่งหมายถึง "หน้าที่บริการทหาร" และมันเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมทางทหารและการปกครองในอิสราเอล.
เหตุผลที่คนอิสราเอลต้องเป็นทหารทุกคนรวมถึง:
ความมั่นคงของชาติ: อิสราเอลเป็นประเทศที่ตั้งอยู่ในเขตที่มีความไม่แน่นอนเกี่ยวกับความปลอดภัย เนื่องจากความขัดแย้งกับประเทศในทวีปเอเชียตะวันออกกลาง และเหตุการณ์ทางทหารที่เกี่ยวข้องกับความขัดแย้งในพื้นที่นี้ การบริการทหารของทุกคนเป็นส่วนหนึ่งของความมั่นคงและการปกครองของประเทศ.
ความเป็นเท่าเทียม: ระบบการเกณฑ์ทหารทั้งหมดในอิสราเอลถูกออกแบบให้ทุกคนในสังคมมีสิทธิ์และหน้าที่เท่าเทียมต่อกัน ไม่ว่าจะเป็นชายหรือหญิง รวมถึงกลุ่มประชากรทางทหารอื่น ๆ ที่มีระบบการเกณฑ์เฉพาะตนเองเช่น คนที่เป็นพื้นเมือง ศาสนา หรือกลุ่มชน.
การพัฒนาทักษะและคุณค่า: การเป็นทหารใน IDF มอบโอกาสให้คนรวมทุกคนพัฒนาทักษะทางทหารและทักษะชีวิต รวมถึงสร้างความสำคัญในคุณค่าของการทำงานร่วมกัน ความเป็นน้ำเลี้ยงของชุมชน และความรับผิดชอบต่อชาติและสังคม.
ระบบการเกณฑ์ทหารโรงเรียน: ทหารมีบทบาทในการอุทิศตนเพื่อความศักดิ์สิทธิ์ของชาติ เพื่อความเข้มแข็งและปกครองที่เน้นการรักษาความสัมพันธ์ดี ๆ กับสังคมและครอบครัว การบริการทหารช่วยในการสร้างความเข้มแข็งและความรักในชาติอีสราเอลมากขึ้น.
ดังนั้น การบริการทหารที่เรียกว่า "חובת שירות" เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องปฏิบัติตามกฎหมายและเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมทางทหารและการปกครองในอิสราเอลเพื่อความมั่นคงและความเป็นเท่าเทียมในสังคม.
เครดิตบทความจาก :
https://doghb.com/Tags : ข่าววันนี้,ข่าว
