SMF Thailand.

ซนเยจิน: นักแสดงสาวคนสวยมากความสามารถ
ซนเยจิน (손예진) เป็นนักแสดงสาวชาวเกาหลีใต้ ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในทั้งประเทศเกาหลีและต่างประเทศ เธอมีผลงานการแสดงมากมาย ฝีมือการแสดงยอดเยี่ยม และเป็นที่รักของแฟนๆ ทั่วทั้งเอเชีย
ประวัติโดยย่อ

• เกิดวันที่ 11 มกราคม 2525 ที่เมืองแทกู ประเทศเกาหลีใต้
• เริ่มเข้าสู่วงการบันเทิงตั้งแต่ปี 2000
• มีผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกคือ "Secret Tears" (2000)
• มีผลงานละครโทรทัศน์เรื่องแรกคือ "Delicious Proposal" (2001)
• ผลงานเด่นๆ ได้แก่ "คนแรกของหัวใจ คนสุดท้ายของชีวิต" (2003), "อุ่นไอรัก หัวใจดวงเดิม" (2004), "Crash Landing on You" (2019-2020)
• ได้รับรางวัลมากมาย เช่น รางวัลนักแสดงนำหญิงยอดเยี่ยม จากงาน Baeksang Arts Awards ครั้งที่ 54

ชีวิตส่วนตัว
เข้าพิธีวิวาห์กับ ฮยอนบิน นักแสดงหนุ่มชื่อดัง เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2565
ให้กำเนิดลูกชายคนแรกเมื่อวันที่ 27 พฤศจิกายน 2565
ซนเยจิน เป็นนักแสดงที่มากความสามารถ ไม่ว่าจะได้รับบทบาทอะไร เธอก็สามารถถ่ายทอดอารมณ์ของตัวละครออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม นอกจากนี้ เธอยังเป็นผู้หญิงที่สวย แวววาว และมีเสน่ห์ ทำให้ได้รับความนิยมจากแฟนๆ ทั่วโลก
ปัจจุบัน
หลังจากแต่งงาน และมีลูกชายคนแรก ซนเยจิน พักงานในวงการบันเทิงไปสักพัก เพื่อทำหน้าที่แม่
มีข่าวลือว่า เธอกำลังเตรียมตัวกลับมารับงานแสดงอีกครั้ง โดยมีแฟนๆ รอคอยผลงานการแสดงเรื่องใหม่ของเธอด้วยความคิดถึง

Tags : ประวัติภวิน-ธนิก,ภวิน-ธนิก กมลธรานนท์

ประวัติ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ "บิ๊กโจ๊ก" อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ
พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล หรือที่รู้จักกันในชื่อ "บิ๊กโจ๊ก" เกิดเมื่อวันที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2513 ที่อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา จบการศึกษาจากโรงเรียนมหาวชิราวุธ วิทยาลัยพณิชยการ และโรงเรียนนายร้อยตำรวจ รุ่นที่ 47

เส้นทางการรับราชการ

• เริ่มรับราชการครั้งแรกในปี พ.ศ. 2537 ดำรงตำแหน่งรองสารวัตร สถานีตำรวจนครบาลลุมพินี
• เคยดำรงตำแหน่งสำคัญต่างๆ มากมาย อาทิ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลลุมพินี, ผู้กำกับการสืบสวนสอบสวนกองบังคับการตำรวจนครบาล 2, ผู้กำกับการตำรวจท่องเที่ยว 1, ผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว, ผู้บังคับการตำรวจสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ, ผู้บังคับการตำรวจปราบปรามยาเสพติด, ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ

ผลงานที่โดดเด่น

• ปราบปรามแก๊งค้ายาเสพติด
• ทลายเว็บพนันออนไลน์
• กวาดล้างอาชญากรรม
• ดูแลความปลอดภัยของประชาชน

รางวัลและเกียรติยศ

• รางวัลเสาหลักประชาชน
• รางวัลจงกลวิ่ง
• รางวัลบุคคลดีเด่นสาขางานตำรวจ

ชีวิตส่วนตัว
สมรสกับ ดร.ศิรินัดดา หักพาล มีบุตรสาว 1 คน
การลาออกจากราชการ
พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล ลาออกจากราชการเมื่อวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2566
ปัจจุบัน
พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล ยังคงมีบทบาทในสังคม เป็นประธานมูลนิธิปณิธานพลเมืองไทย และ เป็นที่ปรึกษาให้กับหน่วยงานต่างๆ

Tags : ข่าว,ข่าววันนี้

วิธีไหว้ดาวพฤหัสบดี เสริมดวงชะตา รับโชคลาภ บารมี และความมั่งคั่ง
ดาวพฤหัสบดี หนึ่งในนพเคราะห์สำคัญตามความเชื่อทางโหราศาสตร์ไทย โบราณเชื่อกันว่า ดาวพฤหัสบดีเป็นดาวมงคล ดาวแห่งโชคลาภ บารมี และความมั่งคั่ง การไหว้ดาวพฤหัสบดีจึงเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ที่ต้องการเสริมดวงชะตา
ฤกษ์ยามและช่วงเวลาที่เหมาะแก่การไหว้ดาวพฤหัสบดี

• วันพฤหัสบดี: เชื่อกันว่าเป็นวันที่ดาวพฤหัสบดีส่งพลังงานที่ดีที่สุด เหมาะแก่การไหว้บูชาเป็นพิเศษ

ช่วงเวลา:

• 12.45 น. : เป็นช่วงเวลาที่ดาวพฤหัสบดีสถิตย์อยู่ในทิศตะวันตกเฉียงใต้
• 19.19 น. : เป็นช่วงเวลาโอกาสทองในการขอพรจากดาวพฤหัสบดี

วิธีการจัดเตรียมของไหว้

• ธูปเทียน: 9 แท่ง
• ดอกไม้: ดอกมะลิสีขาว หรือดอกกล้วยไม้สีเหลือง
• ผลไม้: 5 ชนิด
• กล้วย
• มะม่วง
• ส้ม
• องุ่น
• แก้วมังกร
• น้ำ: 1 แก้ว
• ของมงคล:
• เหรียญเงิน 9 บาท
• ผ้าสีเหลือง
• เทียนไขสีเหลือง

วิธีการไหว้ดาวพฤหัส

• ตั้งโต๊ะไหว้บูชาหันหน้าไปทางทิศตะวันตก
• จัดเตรียมของไหว้ทั้งหมดวางบนโต๊ะ
• จุดธูปเทียนบูชา
• กล่าวคำบูชาดาวพฤหัสบดี
• ตั้งจิตอธิษฐานขอพรจากดาวพฤหัสบดี
• เมื่อธูปเทียนใกล้หมด นำของไหว้ไปแจกจ่ายให้ผู้อื่น

คาถาบูชาดาวพฤหัสบดี
"นะโม ตัสสะ พะวะโต อะริยะ สัพพะ ทา วา ณิ ยา ยา วา อะระหะโต ธัมมะ สัพพะ ทา วา ณิ ยา ยา วา สังฆะ สัพพะ ทา วา ณิ ยา ยา วา" (19 จบ)

ข้อควรระวัง

• ควรแต่งกายสุภาพเรียบร้อย
• ควรมีจิตใจที่สงบ
• ควรตั้งจิตอธิษฐานขอพรด้วยความศรัทธา

ผลานุิบัตรจากการไหว้ดาวพฤหัสบดี

• เชื่อกันว่าช่วยเสริมดวงชะตาให้ดีขึ้น
• ส่งผลให้มีโชคลาภ เงินทองไหลมาเทมา
• บารมีสูงศักดิ์
• ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน
• มีสุขภาพแข็งแรง

หมายเหตุ
ความเชื่อเกี่ยวกับการไหว้ดาวพฤหัสบดีเป็นเพียงความเชื่อส่วนบุคคล ผลลัพธ์ที่ได้อาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความศรัทธาและการประกอบกรรมดีของแต่ละบุคคล

Tags : สาระน่ารู้ เรื่องใกล้ตัว

คลิ๊ก ดูบทสวดมนต์ก่อนนอน  นับเป็นวิธีหนึ่งที่ทำให้เรามีความสุขขึ้นได้ โดยที่ในแต่ละวันเราต้องพบเจอกับเรื่องราวมากมาย ทั้งเรื่องที่ทำให้ชีวิตเป็นสุข ไปจนถึงเรื่องราวแย่ๆ ที่ทำให้ชีวิตวุ่นวาย เมื่อกลับถึงบ้านเราต่างก็ต้องการเวลาพักผ่อน อยากนอนหลับสบายเพื่อลืมเรื่องราวแย่ๆ
การท่องบทสวดมนต์ก่อนนอนจะช่วยให้เรามีสมาธิ จิตใจสงบ ผ่องใส อีกทั้งยังเป็นการแผ่ส่วนบุญส่วนกุศลที่ได้ทำมาในแต่ละวันให้กับเพื่อนมนุษย์ หรือสรรพสัตว์ต่างๆ บนโลก เมื่อเรามีสมาธิ จิตใจเย็นลง จะทำให้เรานอนหลับสบาย ตื่นเช้ามาจะรู้สึกสดใส พร้อมที่จะสู้ไปกับงาน หรือการเรียนได้อย่างมีความสุข
ซึ่งใน บทสวดมนต์ นั้นไม่ว่าจะเป็นบทใดก็ตามล้วนแล้วแต่มีอานุภาในตัวเองอยู่มากมาย อีกทั้งยังแฝงไปด้วยข้อคิดดีๆ ที่จะเป็นหลักนำทางให้เราดำเนินชีวิตในทุกๆ วันไปได้อย่างราบรื่น ฉะนั้น การสวดมนต์ก่อนนอนถือว่าเป็นเรื่องที่ดี ยิ่งปฏิบัติทุกวันก็จะส่งผลที่ดีในเรื่องของสมาธิ ปัญญา ทำให้ใจของเราสามารถพิจารณาเรื่องราวต่างๆ ได้อย่างละเอียด รอบคอบ และใจเย็นมากขึ้น
เริ่มต้น กราบพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ (3 ครั้ง) แล้วจึงเริ่มต้นกล่าวบทสวดตามปกติ
คำบูชาพระ
เข้าดูบทสวดมนต์ก่อนนอนได้ที่  >> https://www.sanook.com/horoscope/56233/

รปภ.วัย 59 ปี เข้าเมืองกรุงมาทำงานหาเงินใช้หนี้กว่า 17 ปี นำเลขโควิด ซื้อลอตเตอรี่ถูกรางวัลที่ 1 ถึง 5 ใบ รับ 30 ล้านบาท 
ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า มีชาวบ้าน ต.นาป่า อ.เมืองเพชรบูรณ์ ซึ่งไปทำงานเป็น รปภ.อยู่กรุงเทพ ถูกรางวัลที่ 1 สลากกินแบ่งรัฐบาล งวดประจำวันที่ 16 เมษายน 2565 จำนวน 5 ใบ ได้รับเงินรางวัล 30 ล้านบาท ขณะนี้ได้เดินทางกลับมาหาลูกเมียที่บ้านเกิดที่ ต.นาป่า อ.เมืองเพชรบูรณ์ จึงเดินทางไปตรวจสอบ 
ตรวจสลากกินแบ่งรัฐบาล ตรวจหวย 16 เมษายน 2565

รีวิวภาพยนตร์ John Wick: Chapter 4 - แอคชั่นระห่ำจัดเต็มแบบไม่พักสู่บทสรุปที่ยิ่งใหญ่ของจอห์น วิค 



ใครจะคิดจะฝันว่าเรื่องราวของนักฆ่าที่ออกตามล้างแค้นเพื่อสุนัขเพียงตัวเดียว จะถูกต่อยอดมาไกลได้ถึงขนาดนี้ หากนับตั้งแต่ John Wick ภาคแรกในปี 2014 ซึ่งเป็นจุดที่ทำให้พระเอกที่อยู่ในช่วงขาลงแล้วอย่าง คีอานู รีฟส์ (Keanu Reeves) กลับมาโลดแล่นได้อีกครั้ง มาจนถึง John Wick Chapter 4 ก็กินเวลาไปร่วมเกือบๆ 10 ปีเลยทีเดียว ต้องบอกว่าเป็นเวลาที่เหมาะสมอย่างยิ่งที่ตัวแฟรนไชส์ John Wick และตัวของคีอานู รีฟส์ เองจะอยู่ในช่วงเวลาที่สุกงอม สง่างามและสมควรได้รับการจดจำอย่างสมเกียรติจากภาพยนตร์ภาคนี้นี่แหละ



John Wick 4 มีการยกระดับขึ้นจากภาคที่แล้วอย่างเห็นได้ชัด เพราะในภาคนี้ถูกอัดแน่นไปด้วยฉากแอคชั่นจัดเต็มมากถึง 14 ฉาก และแต่ละฉากต้องใช้คำว่า “Masterpiece” จริงๆ เพราะมันเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์และความพิถีพิถันของงานสร้างและการออกแบบคิวบู๊ ทั้งฉากไล่ล่ากันที่ประตูชัยฝรั่งเศส (Arc de Triomphe) ที่เป็นที่สุดของความตื่นเต้น หรือฉากที่หลายคนชื่นชอบและร้องว้าว นั่นคือ ฉากกล้องมุมสูงที่มาพร้อมกับปืนลูกซองพ่นไฟ (Dragon’s Breath) ฉากนี้เป็นส่วนผสมของมุมกล้องที่แปลกตาและประกายไฟจากปืนในอาคารมืดสลัว เมื่อจอห์น วิค ยิงปืนไฟออกมาแต่ละครั้ง มันช่างตื่นตาดีเหลือเกิน และที่สำคัญฉากนี้ใช้เทคนิคลองเทค (Long Take) ในการถ่ายทำ ซึ่งผลลัพธ์นั้นคือความมันส์ที่เกินบรรยายจริงๆ



หนำซ้ำการประลองปืนในฉากสุดท้ายของเรื่องก็ยังไม่วายที่จะสร้างเซอร์ไพร์สให้กับผู้ชมได้อีก ถึงจะเรียบง่ายแต่ก็ทรงพลัง เรียกว่าเป็นฉากจบเรื่องที่คู่ควรกับจอห์น วิค เหลือเกิน และฉากต่างๆ อีกมากมาย ทั้งฉากแอคชั่นที่โรงแรม Continental สาขาโอซาก้า ก็ดี หรือฉากบันได 222 ขั้นของวิหาร Sacré-Cœur ก็ดี ที่เล่นกับใจของผู้ชมได้อย่างอยู่หมัด จนเห็นแล้วเหนื่อยแทนคุณวิคเลยจริงๆ (ในใจก็ร้องว่าพอเถอะ) จึงไม่แปลกใจ เมื่อผู้กำกับแชด
สตาเฮลสกี (Chad Stahelski) ออกมาบอกว่าเขายังไม่มีแผนการที่จะสร้างภาคต่อในเร็ววันนี้แน่ๆ เพราะเขาได้ใส่ทุกอย่างเท่าที่ทำได้ไปในหนังภาคนี้จนหมดแล้วนั่นเอง



และอาจจะบอกได้ว่า John Wick 4 เป็นอีกตัวอย่างของภาพยนตร์ที่ดำเนินเรื่องด้วยฉากแอคชั่นได้ยอดเยี่ยมมากที่สุดเรื่องหนึ่ง เพราะถึงแม้จะอัดแน่นไปด้วยฉากแอคชั่นมากมายอย่างที่บอกไป ซึ่งน่าจะเกินไปกว่าครึ่งเรื่องด้วยซ้ำที่เราได้ยินเสียงกระสุนปืนสาดใส่กัน แต่ตลอด 2 ชั่วโมง 49 นาทีของภาพยนตร์ กลับผ่านไปอย่างรวดเร็ว และไม่มีห้วงอารมณ์ของความเบื่อหน่ายในฉากแอคชั่นอยู่เลย โดยลักษณะของการวางฉากแอคชั่นในเรื่องนั้น มีลักษณะเป็นด่าน (Stage) ที่มีความตื่นเต้นมากน้อยสลับกันไป ต้องชื่นชมผู้กำกับแชด สตาเฮลสกี ที่รู้ว่าตรงไหนควรตื่นเต้น ตรงไหนควรผ่อนเครื่องบ้าง



ซึ่งฉากแอคชั่นทั้งหมดก็สอดรับกับการเล่าเรื่องที่ต้องใช้คำว่า “น้อยแต่มาก” เพราะถ้าพูดกันตามตรง ภาพยนตร์ชุดนี้ก็ไม่ได้มีเนื้อเรื่องอะไรที่สลับซับซ้อนอยู่แต่แรกแล้ว แต่เสน่ห์ของการเล่าเรื่องแบบง่ายๆ นี้ก็ทำงานอย่างได้ผลในภาคสุดท้ายนี้เช่นกัน จากที่ต้องหนีการตามล่าจากเหล่า “สภาสูง” (High Table) ในภาคก่อน กลายมาเป็นการโต้กลับเพื่ออิสระภาพ ระหว่างทางจึงเหลือช่องว่างให้สามารถใส่เรื่องราวของโลกนักฆ่าที่ว่าได้เรื่องของ “กฎ” เข้ามาได้อีก โดยในภาคนี้เราก็จะได้เห็นทั้ง กฎการรับเข้าตระกูล หรือ กฎการท้าดวลกับสภาสูง ซึ่งเป็นสิ่งใหม่ที่เพิ่มเข้ามาและเราไม่สามารถคาดเดาได้จากเนื้อเรื่องที่ผ่านมา



นอกจากกฎในโลกนักฆ่าแล้ว John Wick ภาคนี้ยังมีการเพิ่มมิติของตัวเรื่องได้น่าสนใจ จะสังเกตว่า ตัวละครแต่ละตัวจะเชื่อมโยงกันด้วยสายสัมพันธ์ ทั้ง พ่อ-ลูก เจ้านาย-ลูกน้อง หรือความสัมพันธ์ของเพื่อนเก่า ซึ่งเดิมทีตัวละครจอห์น วิค เป็นตัวละครที่ว่างเปล่าและดูไร้มิติมาก (แถมพูดน้อยและขรึมอีกต่างหาก) ซึ่งเสี่ยงให้ผู้ชมเบื่อหน่ายได้ง่ายมาก แถมยังไม่เคยมีการเปิดเผยเรื่องราวของเขาเลยแม้แต่น้อย ทุกอย่างถูกเล่าผ่านการบอกเล่าจากปากตัวละครอื่นทั้งสิ้น



การแก้ลำนั้นทำโดยเพิ่มตัวละครเพื่อนของเขานอกจาก Winston และ Bowery King นั่นก็คือ ชิมาซุ (Shimazu) ผู้จัดการโรงแรม Continental สาขาโอซาก้า รับบทโดย ฮิโรยูกิ ซานาดะ (Hiroyuki Sanada) ที่ให้ความช่วยเหลือจอห์น วิค โดยยอมแม้กระทั่งปะทะกับคนของมาร์คีส์ (Marquis) ทั้งๆ ที่รู้ว่าโรงแรมของเขาและตัวเขาจะต้องเสี่ยงอันตราย นั่นทำให้เราพอคาดเดาได้ว่าในอดีต จอห์น วิค ไม่ใช่คนที่เลวร้ายไปซะทีเดียว เขายังมุมที่สามารถมีเพื่อนแท้ได้ด้วย



และสหายอีกหนึ่งคนที่เข้ามายกระดับภาพยนตร์เรื่องนี้จนต้องปรบมือให้เลยจริงๆ นั่นคือ ตัวละครของดอนนี่ เยน (Donnie Yen) ในบทบาทนักฆ่าตาบอดยอดฝีมืออย่าง เคน (Caine) การเพิ่มมาของตัวละครนี้นอกจากศิลปะการต่อสู้และความเป็นซุปเปอร์สตาร์ของดอนนี่ เยน ที่ยืนข้างกับคีอานู รีฟส์ ได้อย่างไม่ต้องกลัวหม่นหมองแล้ว เขายังเข้ามาสร้างมิติในการเป็นคู่ปรับที่ดูสมน้ำสมเนื้อกับจอห์น วิค ได้เป็นอย่างดี แถมยังเป็นตัวละครที่พาพระเอกของเราไปสู่ทางลงที่น่าประทับใจมากๆ (เดิมทีตัวละครนี้จะใช้ชื่อว่า ชาง และใส่เสื้อคอเต่าแบบชาวจีนแท้ๆ แต่เป็นตัวของดอนนี่ เยน เองที่รู้สึกว่า ตัวละครของเขาควรจะดูดีแบบคนอื่นบ้าง จึงได้ทำการออกแบบตัวละครและเปลี่ยนชื่อใหม่ จนได้เป็นอย่างที่เราเห็นกันในเรื่อง)



ส่วนอีกคนที่เหมือนจะเป็นตัวละครเอาไว้แก้เลี่ยนแต่ก็มองข้ามไม่ได้เลยอย่าง นายไร้ตัวตนหรือ The Tracker (รับบทโดย Shamier Anderson) ก็เป็นอีกตัวละครมีบทบาทไม่น้อย โดยเขาเข้ามาเพื่อหวังจะล่าค่าหัวจอห์น วิค แต่ก็ต้องได้รับบทเรียนสำคัญกลับไป ซึ่งจุดนี้ก็ทำให้เราได้เห็นนิสัยใจคอของจอห์น วิค อีกด้านหนึ่งเหมือนกัน



จุดเด่นอีกอย่างที่ถูกยกระดับขึ้นมาและมันทำให้ภาพยนตร์ชุดนี้ดูเป็นตัวของตัวเองมาก หนีไม่พ้นเรื่องของสถานที่ที่เป็นฉากหลังของเรื่อง ที่ดูหรูหรา ตระการตา และมีความเป็นศิลปะสูงมาก ทั้งโรงแรม Continental สาขาโอซาก้าหรือสาขาเบอร์ลินเองก็ตาม หรือแม้แต่ฉากระหว่างที่ตัวละครพักจากการต่อสู้ ก็จะเป็นสถานที่ที่สวยงาม เช่น โบสถ์ ห้องโถงของโรงแรม เป็นต้น นี่ยังนับไปถึงเสื้อผ้าของตัวละครและรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ทั้งหลาย รวมทั้งการถ่ายภาพ การจัดแสงและสี ที่ทำให้โลกของจอห์น วิค ดูหรูหรา มีสไตล์ของความเป็นชนชั้นสูง แต่กลับแฝงด้วยกลิ่นความเลือดและความตาย (ควรจะได้เข้าชิงออสการ์สาขาออกแบบงานสร้างสักครั้งเลยจริงๆ)

หากจะว่าถึงจุดที่น่าเสียดายอยู่ตรงที่ เราคาดหวังว่าจะได้เห็นโลกของนักฆ่าที่กว้างกว่านี้ในภาคนี้ แน่นอนว่าเรื่องนี้อาจจะต้องรอดูในแฟรนไชส์อย่างซีรีส์ The Continental ก็เป็นได้ นั่นเลยทำให้ตัวละคร มาร์คีส์ ของ บิล สการ์สการ์ด (Bill Skarsgård) ยังคงเป็นแค่เบี้ยตัวหนึ่งของสภาสูงเท่านั้น และนักฆ่าร่างท้วมของ สก็อตต์ แอดคินส์ (Scott Adkins) ที่ก็ไม่เข้าใจว่าพี่จะอ้วนทำไม ตรงนี้ทำให้เราเกิดความรู้สึกคล้ายๆ กับภาคก่อนว่า เป็นแค่ตัวละครที่มาเพื่อให้จอห์น วิค สู้เก็บเลเวลเท่านั้น เพราะดูยังไงจอห์น วิค ก็คงไม่แพ้ (ถึงบอกว่าตัวละครเคนนั้นมีผลอย่างมากไม่ให้ความรู้สึกแบบนี้เกิดขึ้นตลอดทั้งเรื่อง) รวมถึงในส่วนของงานสตันท์ มีหลายครั้งที่ดูเหมือนจะเข้ามาเพื่อให้ถูกโดนจัดการ บางจังหวะอาจจะดูยั้งมือไปบ้าง ซึ่งมันค่อนข้างผิดธรรมชาติ แต่ก็เข้าใจได้ว่าด้วยฉากแอคชั่นที่ยาวขนาดนี้ ย่อมต้องมีแผลเล็กๆ เกิดขึ้นเป็นธรรมดา

สรุป John Wick: Chapter 4 เป็นภาคต่อที่ถูกยกระดับขึ้นมาจนถึงขีดสุดในทุกด้าน ทั้งในด้านของฉากแอคชั่นที่จัดเต็มแทบไม่มีเวลาพักหายใจกันเลยทีเดียว และในด้านเนื้อเรื่องที่เพิ่มตัวละครของ ดอนนี่ เยน เข้ามานับว่าเป็นการสร้างมิติให้กับทั้งเรื่องได้มากเลยไปจนถึงบทสรุปที่ยอดเยี่ยมตราตรึงใจ ภายใต้งานสร้างระดับหนังมหากาพย์ที่ยิ่งใหญ่เหมาะกับบทสรุปของมือปืนที่ทั้งโลกต้องหวาดกลัวผู้นี้



ขอบคุณข้อมูล
https://movewinbet.one
ศูนย์รวมเกมสล็อตที่แจ็คพอตแตกง่ายที่สุด

ป้าติ๋ม รับมรดก 100 ล้าน: ความดีมีผลตอบแทนจริง!
จากแม่บ้านสู่เศรษฐีนี
หญิงวัยกลางคนผู้เป็นที่รักใคร่ของเพื่อนบ้านในชุมชน ถูกพูดถึงอย่างกว้างขวางเมื่อเธอได้รับมรดกจำนวน 100 ล้านบาทจากนายจ้างผู้ล่วงลับ ป้าติ๋ม ทำงานเป็นแม่บ้านให้กับครอบครัวเศรษฐีมาหลายปี เธอทุ่มเททำงานด้วยความซื่อสัตย์ อดทน และดูแลนายจ้างราวกับเป็นคนในครอบครัว
ความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้น
นายจ้างของป้าติ๋ม มักพูดเสมอว่า ป้าติ๋มเปรียบเสมือนคนในครอบครัว เขารู้สึกขอบคุณสำหรับความทุ่มเทและความซื่อสัตย์ของเธอ
ป้าติ๋ม รับมรดก 100 ล้าน กับมรดกที่ไม่คาดคิด
เมื่อนายจ้างเสียชีวิตลง ทุกคนต่างประหลาดใจเมื่อทราบว่าป้าติ๋มได้รับมรดกจำนวน 100 ล้านบาท หลายคนรู้สึกดีใจกับป้าติ๋ม เพราะเธอสมควรได้รับรางวัลสำหรับความดีของเธอ

ความดีงามของมนุษย์
เรื่องราวนี้ยังสะท้อนให้เห็นถึงความดีงามของมนุษย์ มิตรภาพ และความซื่อสัตย์ ที่สามารถเอาชนะทุกอุปสรรค
 

Tags : ข่าว,ข่าววันนี้,ข่าวสด

"Oppenheimer" ที่รับรางวัลออสการ์ปี 2024

"Oppenheimer" เป็นภาพยนตร์ชีวประวัติที่โดดเด่น ที่ได้รับการกำกับโดย Christopher Nolan และนำแสดงโดย Cillian Murphy ภาพยนตร์นี้ได้รับรางวัลออสการ์ในปี 2024 ซึ่งเป็นการยอมรับและเชิดชูความสำเร็จที่สำคัญอย่างสูงบนเวทีสูงสุดของวงการภาพยนตร์
เรื่องราวของ "Oppenheimer" นำเสนอเรื่องราวที่น่าสนใจของ J. Robert Oppenheimer นักฟิสิกส์ที่มีบทบาทสำคัญในการพัฒนาอาวุธนิวเคลียร์ โดยโดดเด่นด้วยการกำกับของ Christopher Nolan ภาพยนตร์นี้ถ่ายทอดเรื่องราวอย่างมีเสน่ห์และเป็นที่สนใจ
การได้รับรางวัลออสการ์ในปี 2024 เป็นการยืนยันอีกครั้งถึงคุณภาพและความสำเร็จของ "Oppenheimer" ที่มอบประสบการณ์สุดพิเศษแก่ผู้ชม ผลงานนี้ไม่เพียงแค่เป็นภาพยนตร์ที่น่าตื่นเต้นและสร้างความประทับใจ แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจที่สำคัญสำหรับวงการภาพยนตร์ทั้งโลก

Tags : ซีรีส์ Netflix,ละครไทย

ไม่ว่าจะเป็นข่าวลือ หรือแม้แต่ความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับโทรศัพท์มือถือเรือธงรุ่นใหม่จาก Apple นั้นมีออกมาให้เห็นกันอยู่บ่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ iPhone 15 ที่ถูกปล่อยออกมาในช่วงที่กำลังจะเปิดตัว iPhone 14 จนมาถึงตอนนี้ที่ก็เปิดตัวกันอย่างเป็นทางการไปได้สักพักแล้ว จนมาถึงปี 2023 ซึ่งเป็นช่วงที่ว่ากันจะเปิดตัวไอโฟน 15 กันในเดือนกันยายน ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาสื่อแต่ละสำนักได้สรุปรวมเอาสเปกไปจนถึงดีไซน์ตัวเครื่องที่เราจะได้เห็นกันในอีกไม่กี่เดือนนี้ มีอะไรน่าสนใจบ้าง เราสรุปมาให้อ่านกันแบบสั้น กระชับ ได้ใจความ
สิ่งที่อาจจะได้เห็นบน iPhone 15 ในทุก ๆ รุ่น

• iPhone 15 ทุกรุ่นจะมาพร้อมกับติ่งแบบใหม่ที่เรียกกันว่า Dynamic Island
  
• ขอบหน้าจอ ไปจนถึงขอบตัวเครื่องไอโฟน 15 ก็บางลง และโค้งมนแล้ว
  
• iPhone 15 ให้ปุ่ม Action มาแทนปุ่มเปิดปิดเสียงแบบเดิม
  
• พอร์ตเชื่อมต่อ iPhone 15 รอบนี้เป็นแบบ USB-C แล้ว(เสียที)
  
• iPhone 15 และ iPhone 15 Plus จะได้ปุ่ม Mute เสียงมาแบบเดิมเท่านั้น
  
• iPhone 15 Pro Max จะมีเลนส์กล้องที่ใหญ่ยิ่งขึ้นกว่าเดิม
  
• ซีรีส์ไอโฟน 15 จะมาพร้อมกับสีใหม่เหล่านี้ iPhone 15 / iPhone 15 Plus สีใหม่ได้แก่ Midnight , Starlight , Product RED , A shade of pink , A shade of blue ส่วน iPhone 15 Pro และ iPhone 15 Pro Max สีใหม่ได้แก่ Space Black , Silver Gold , Dark red
  
  ทั้งหมดนี้ยังเป็นเพียงข้อมูลที่ถูกคาดการณ์เท่านั้น ข้อมูลจริง ๆ จะเป็นยังไง สเปกและดีไซน์จะน่าสนใจมากแค่ไหน คงต้องรอติดตามกันได้ในวันเปิดตัวแบบเต็ม ๆ
  ที่มา : https://www.enforno.com/hitech/
  
  เครดิตบทความจาก : https://www.sanook.com/hitech/
  
  Tags : ไอโฟน 15,iPhone 15 Series

ข่าววันนี้[/u] วันลอยกระทง 2566 วันที่เท่าไหร่ ? ตรงกับวันจันทร์ที่ 27 พฤศจิกายน 2566[/b]

• วันลอยกระทง ประเพณีไทยที่สะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตและวัฒนธรรม
  
  
  
  ตามปฏิทินจันทรคติไทย วันลอยกระทงตรงกับวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ซึ่งในปี 2566 วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 12 ตรงกับวันจันทร์ที่ 27 พฤศจิกายน 2566 นั่นเอง
   
  วันลอยกระทงเป็นประเพณีสำคัญของชาวไทยที่สืบทอดกันมายาวนาน มีการประดิษฐ์กระทงที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ เช่น ใบตอง ใบลาน กาบกล้วย ฯลฯ เพื่อลอยลงในแม่น้ำ เพื่อเป็นการขอขมาพระแม่คงคาและขอขมาต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย รวมถึงเป็นการปล่อยทุกข์โศกให้ลอยไปกับสายน้ำ
  
   
  
  นอกจากการลอยกระทงแล้ว ในวันลอยกระทงยังมีกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย เช่น การแสดงแสงสีเสียง การแสดงดนตรี การแข่งขันกระทงสวยงาม ฯลฯ
   
  วันลอยกระทงเป็นประเพณีที่แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมอันงดงามของไทย ทั้งในด้านความเชื่อ ความศรัทธา และความประณีตในการประดิษฐ์กระทง นอกจากนี้ ยังเป็นการส่งเสริมให้ผู้คนตระหนักถึงความสำคัญของน้ำอีกด้วย
  
  
   
  
  Tags : ข่าววันนี้,ข่าว,ข่าวเด่นวันนี้

ปฐพีไร้พ่าย: ตำนานรัก ทวงคืนบัลลังก์

เรื่องย่อ "ปฐพีไร้พ่าย" เป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับการต่อสู้และการเผชิญหน้ากับความท้าทายในชีวิต ซึ่งเรื่องนี้เล่าถึงชีวิตของหนุ่มหนุ่มคนหนึ่งที่ชื่อ "กฤษณะ" ซึ่งเขาเป็นคนที่มีความใฝ่ฝันและมีความกล้าหาญ แม้ว่าเขาจะพบเจอกับปัญหาและอุปสรรคต่างๆ ในชีวิต แต่เขาก็ไม่ย่อท้อและไม่ยอมแพ้ แทนที่จะท้อใจ เขาใช้ความมุ่งมั่นและความเชื่อมั่นในตนเองเพื่อที่จะเดินหน้าและเอาชนะความท้าทายที่เข้ามาในชีวิตของเขา
เรื่องราวของ "กฤษณะ" นำเสนอเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ชมที่ต้องเผชิญหน้ากับความยากลำบากในชีวิต และเรียนรู้ว่าความมุ่งมั่นและความกล้าหาญสามารถช่วยให้เราเดินผ่านความท้าทายได้ โดยไม่ว่าจะเป็นความล้มเหลว การสูญเสีย หรืออุปสรรคใดๆ ที่เกิดขึ้น เราสามารถเอาเรียนรู้และเติบโตขึ้นไปจากมันได้ เพียงแค่มีความมุ่งมั่นและความกล้าหาญในใจให้เต็มที่
"ปฐพีไร้พ่าย" เป็นเรื่องที่สองมีสาระและกล้าที่จะแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของความมุ่งมั่นและความกล้าหาญในการเผชิญหน้ากับชีวิต และเป็นแรงบันดาลใจให้กับผู้ชมที่ต้องเดินผ่านทุกอุปสรรคในชีวิตของตนเอง ในที่สุด ความมุ่งมั่นและความกล้าหาญจะช่วยให้เราพร้อมที่จะต่อสู้และเอาชนะความท้าทายในชีวิตอย่างมั่นคงและมั่นใจ ไม่ว่าเราจะพบเจออะไรในทางของเรา ความมุ่งมั่นและความกล้าหาญจะเป็นกำลังใจที่จะทำให้เราก้าวไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงและเข้มแข็ง.

Tags : ซีรีส์จีน

สงครามสมรส EP.12: เจ้าสัวอัคระ กดดัน ปรเมศวร์ เร่งจัดการปัญหาบัวบงกช
ดราม่าเข้มข้น ในละคร "สงครามสมรส" EP.12 ปมปัญหาของ ปรเมศวร์ (ชาคริต แย้มนาม) และ บัวบงกช (แอฟ ทักษอร) ยังคงคาราคาซัง เรื่องราวความสัมพันธ์ที่ยุ่งเหยิง บวกกับปัญหาเรื่องลูก สร้างความไม่พอใจให้กับ เจ้าสัวอัคระ (ต้น อธิวัฒน์) พ่อตาของปรเมศวร์ เป็นอย่างมาก
เจ้าสัวอัคระ ทนเห็นความยืดเยื้อของปัญหานี้ไม่ไหว ตัดสินใจกดดันปรเมศวร์ให้รีบจัดการปัญหาบัวบงกชให้สิ้นสุดโดยเร็วที่สุด สถานการณ์จะเป็นอย่างไรต่อไป? ปรเมศวร์จะหาทางออกให้กับปัญหานี้ได้หรือไม่? เขาจะตัดสินใจอย่างไรกับความสัมพันธ์ของเขากับบัวบงกช?

ห้ามพลาดชม "สงครามสมรส" EP.12
ออกอากาศวันอังคารที่ 30 เมษายน 2567 เวลา 20.30 น. ทางช่องวัน31

Tags : ละครไทย,ละครไทย สนุกๆ

นักลงทุนรายครึ่งเดือนและนักท่องเที่ยว เดินทางมายังเกาะคำชะโนด วังพญานาคราช พ่อปู่ศรีสุทโธและแม่ย่าศรีปทุมมา บ้านโนนเมือง หมู่ที่ 11 ต.บ้านม่วง อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี ด้วยแรงศรัทธาอย่างหนาตาในวันนี้ (10 พ.ย.) ซึ่งมีเลขเด็ด
หลายคนมามากราบไหว้ขอพรปู่ย่าภายในเกาะดังกล่าว จนต้องยืนรอคิวเข้าสักการะกัน เนื่องจากเป็นช่วงใกล้เทศกาลลอยกระทง ที่ตรงกับวันเพ็ญ ขึ้น 15 ค่ำ
ขณะเดียวกัน ที่ลานบวงสรวงหน้าเกาะคำชะโนด มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาทำพิธีแก้บนพร้อมเปิดทรัพย์รับโชคกัน อย่างที่โต๊ะแก้บน มีประชาชนชาว จ.ขอนแก่น ที่มาแต่ละครั้งต้องให้ พ่อจ้ำ-ชวการ คำวันสา เป็นพ่อจ้ำพานำทำพิธี เพราะดวงถูกกัน
ตรวจหวยลาว พรุ่งนี้ 13 พฤษจิกายน 2562

เว็บข่าวหวย >> http://sunkate.com/

กฤษฎา จีนะวิจารณะ: ข้าราชการผู้มากประสบการณ์ สู่ตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง
ประวัติการศึกษาและการทำงาน
กฤษฎา จีนะวิจารณะ เกิดเมื่อวันที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2506 สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาเศรษฐศาสตร์ จากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาโทสาขาเศรษฐศาสตร์ จากมหาวิทยาลัยนิวเฮเวน ประเทศสหรัฐอเมริกา
รับราชการในกระทรวงการคลัง
นายกฤษฎา เริ่มรับราชการในกระทรวงการคลัง ดำรงตำแหน่งสำคัญต่างๆ มากมาย อาทิ

• รองผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
• ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน (เศรษฐกรทรงคุณวุฒิ) สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
• ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง
• อธิบดีกรมสรรพสามิต
• ปลัดกระทรวงการคลัง

ผลงานของกฤษฎา จีนะวิจารณะ
ในช่วงดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงการคลัง นายกฤษฎามีบทบาทสำคัญในหลายโครงการสำคัญ อาทิ

• โครงการพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัล
• โครงการพัฒนาระบบภาษีอากร
• โครงการบริหารหนี้สาธารณะ
• โครงการช่วยเหลือประชาชนผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง
วันที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2566 นายกฤษฎา ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในรัฐบาลของนายเศรษฐา ทวีสิน
ลาออกจากตำแหน่ง
วันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2567 นายกฤษฎาได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง โดยให้เหตุผลว่า ไม่พอใจกับการแบ่งงานในกระทรวงการคลัง ที่ให้กำกับดูแลเพียงหน่วยงานเดียว คือ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ
บทบาทในปัจจุบันของกฤษฎา จีนะวิจารณะ
ปัจจุบัน นายกฤษฎายังไม่มีบทบาททางการเมืองอย่างเป็นทางการ แต่ยังคงให้ความสนใจและติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจการคลังของประเทศอย่างใกล้ชิด
สรุป
นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ ข้าราชการผู้มากประสบการณ์ เคยดำรงตำแหน่งสำคัญในกระทรวงการคลังมาหลาย บทบาทในฐานะรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง แม้จะดำรงตำแหน่งได้เพียงระยะเวลาสั้นๆ แต่ก็มีผลงานที่โดดเด่นหลายประการ

Tags : ข่าว,ข่าววันนี้,ข่าวสด

รีวิวภาพยนตร์ John Wick: Chapter 4 - แอคชั่นระห่ำจัดเต็มแบบไม่พักสู่บทสรุปที่ยิ่งใหญ่ของจอห์น วิค 



ใครจะคิดจะฝันว่าเรื่องราวของนักฆ่าที่ออกตามล้างแค้นเพื่อสุนัขเพียงตัวเดียว จะถูกต่อยอดมาไกลได้ถึงขนาดนี้ หากนับตั้งแต่ John Wick ภาคแรกในปี 2014 ซึ่งเป็นจุดที่ทำให้พระเอกที่อยู่ในช่วงขาลงแล้วอย่าง คีอานู รีฟส์ (Keanu Reeves) กลับมาโลดแล่นได้อีกครั้ง มาจนถึง John Wick Chapter 4 ก็กินเวลาไปร่วมเกือบๆ 10 ปีเลยทีเดียว ต้องบอกว่าเป็นเวลาที่เหมาะสมอย่างยิ่งที่ตัวแฟรนไชส์ John Wick และตัวของคีอานู รีฟส์ เองจะอยู่ในช่วงเวลาที่สุกงอม สง่างามและสมควรได้รับการจดจำอย่างสมเกียรติจากภาพยนตร์ภาคนี้นี่แหละ



John Wick 4 มีการยกระดับขึ้นจากภาคที่แล้วอย่างเห็นได้ชัด เพราะในภาคนี้ถูกอัดแน่นไปด้วยฉากแอคชั่นจัดเต็มมากถึง 14 ฉาก และแต่ละฉากต้องใช้คำว่า “Masterpiece” จริงๆ เพราะมันเต็มไปด้วยความคิดสร้างสรรค์และความพิถีพิถันของงานสร้างและการออกแบบคิวบู๊ ทั้งฉากไล่ล่ากันที่ประตูชัยฝรั่งเศส (Arc de Triomphe) ที่เป็นที่สุดของความตื่นเต้น หรือฉากที่หลายคนชื่นชอบและร้องว้าว นั่นคือ ฉากกล้องมุมสูงที่มาพร้อมกับปืนลูกซองพ่นไฟ (Dragon’s Breath) ฉากนี้เป็นส่วนผสมของมุมกล้องที่แปลกตาและประกายไฟจากปืนในอาคารมืดสลัว เมื่อจอห์น วิค ยิงปืนไฟออกมาแต่ละครั้ง มันช่างตื่นตาดีเหลือเกิน และที่สำคัญฉากนี้ใช้เทคนิคลองเทค (Long Take) ในการถ่ายทำ ซึ่งผลลัพธ์นั้นคือความมันส์ที่เกินบรรยายจริงๆ



หนำซ้ำการประลองปืนในฉากสุดท้ายของเรื่องก็ยังไม่วายที่จะสร้างเซอร์ไพร์สให้กับผู้ชมได้อีก ถึงจะเรียบง่ายแต่ก็ทรงพลัง เรียกว่าเป็นฉากจบเรื่องที่คู่ควรกับจอห์น วิค เหลือเกิน และฉากต่างๆ อีกมากมาย ทั้งฉากแอคชั่นที่โรงแรม Continental สาขาโอซาก้า ก็ดี หรือฉากบันได 222 ขั้นของวิหาร Sacré-Cœur ก็ดี ที่เล่นกับใจของผู้ชมได้อย่างอยู่หมัด จนเห็นแล้วเหนื่อยแทนคุณวิคเลยจริงๆ (ในใจก็ร้องว่าพอเถอะ) จึงไม่แปลกใจ เมื่อผู้กำกับแชด
สตาเฮลสกี (Chad Stahelski) ออกมาบอกว่าเขายังไม่มีแผนการที่จะสร้างภาคต่อในเร็ววันนี้แน่ๆ เพราะเขาได้ใส่ทุกอย่างเท่าที่ทำได้ไปในหนังภาคนี้จนหมดแล้วนั่นเอง



และอาจจะบอกได้ว่า John Wick 4 เป็นอีกตัวอย่างของภาพยนตร์ที่ดำเนินเรื่องด้วยฉากแอคชั่นได้ยอดเยี่ยมมากที่สุดเรื่องหนึ่ง เพราะถึงแม้จะอัดแน่นไปด้วยฉากแอคชั่นมากมายอย่างที่บอกไป ซึ่งน่าจะเกินไปกว่าครึ่งเรื่องด้วยซ้ำที่เราได้ยินเสียงกระสุนปืนสาดใส่กัน แต่ตลอด 2 ชั่วโมง 49 นาทีของภาพยนตร์ กลับผ่านไปอย่างรวดเร็ว และไม่มีห้วงอารมณ์ของความเบื่อหน่ายในฉากแอคชั่นอยู่เลย โดยลักษณะของการวางฉากแอคชั่นในเรื่องนั้น มีลักษณะเป็นด่าน (Stage) ที่มีความตื่นเต้นมากน้อยสลับกันไป ต้องชื่นชมผู้กำกับแชด สตาเฮลสกี ที่รู้ว่าตรงไหนควรตื่นเต้น ตรงไหนควรผ่อนเครื่องบ้าง



ซึ่งฉากแอคชั่นทั้งหมดก็สอดรับกับการเล่าเรื่องที่ต้องใช้คำว่า “น้อยแต่มาก” เพราะถ้าพูดกันตามตรง ภาพยนตร์ชุดนี้ก็ไม่ได้มีเนื้อเรื่องอะไรที่สลับซับซ้อนอยู่แต่แรกแล้ว แต่เสน่ห์ของการเล่าเรื่องแบบง่ายๆ นี้ก็ทำงานอย่างได้ผลในภาคสุดท้ายนี้เช่นกัน จากที่ต้องหนีการตามล่าจากเหล่า “สภาสูง” (High Table) ในภาคก่อน กลายมาเป็นการโต้กลับเพื่ออิสระภาพ ระหว่างทางจึงเหลือช่องว่างให้สามารถใส่เรื่องราวของโลกนักฆ่าที่ว่าได้เรื่องของ “กฎ” เข้ามาได้อีก โดยในภาคนี้เราก็จะได้เห็นทั้ง กฎการรับเข้าตระกูล หรือ กฎการท้าดวลกับสภาสูง ซึ่งเป็นสิ่งใหม่ที่เพิ่มเข้ามาและเราไม่สามารถคาดเดาได้จากเนื้อเรื่องที่ผ่านมา



นอกจากกฎในโลกนักฆ่าแล้ว John Wick ภาคนี้ยังมีการเพิ่มมิติของตัวเรื่องได้น่าสนใจ จะสังเกตว่า ตัวละครแต่ละตัวจะเชื่อมโยงกันด้วยสายสัมพันธ์ ทั้ง พ่อ-ลูก เจ้านาย-ลูกน้อง หรือความสัมพันธ์ของเพื่อนเก่า ซึ่งเดิมทีตัวละครจอห์น วิค เป็นตัวละครที่ว่างเปล่าและดูไร้มิติมาก (แถมพูดน้อยและขรึมอีกต่างหาก) ซึ่งเสี่ยงให้ผู้ชมเบื่อหน่ายได้ง่ายมาก แถมยังไม่เคยมีการเปิดเผยเรื่องราวของเขาเลยแม้แต่น้อย ทุกอย่างถูกเล่าผ่านการบอกเล่าจากปากตัวละครอื่นทั้งสิ้น



การแก้ลำนั้นทำโดยเพิ่มตัวละครเพื่อนของเขานอกจาก Winston และ Bowery King นั่นก็คือ ชิมาซุ (Shimazu) ผู้จัดการโรงแรม Continental สาขาโอซาก้า รับบทโดย ฮิโรยูกิ ซานาดะ (Hiroyuki Sanada) ที่ให้ความช่วยเหลือจอห์น วิค โดยยอมแม้กระทั่งปะทะกับคนของมาร์คีส์ (Marquis) ทั้งๆ ที่รู้ว่าโรงแรมของเขาและตัวเขาจะต้องเสี่ยงอันตราย นั่นทำให้เราพอคาดเดาได้ว่าในอดีต จอห์น วิค ไม่ใช่คนที่เลวร้ายไปซะทีเดียว เขายังมุมที่สามารถมีเพื่อนแท้ได้ด้วย



และสหายอีกหนึ่งคนที่เข้ามายกระดับภาพยนตร์เรื่องนี้จนต้องปรบมือให้เลยจริงๆ นั่นคือ ตัวละครของดอนนี่ เยน (Donnie Yen) ในบทบาทนักฆ่าตาบอดยอดฝีมืออย่าง เคน (Caine) การเพิ่มมาของตัวละครนี้นอกจากศิลปะการต่อสู้และความเป็นซุปเปอร์สตาร์ของดอนนี่ เยน ที่ยืนข้างกับคีอานู รีฟส์ ได้อย่างไม่ต้องกลัวหม่นหมองแล้ว เขายังเข้ามาสร้างมิติในการเป็นคู่ปรับที่ดูสมน้ำสมเนื้อกับจอห์น วิค ได้เป็นอย่างดี แถมยังเป็นตัวละครที่พาพระเอกของเราไปสู่ทางลงที่น่าประทับใจมากๆ (เดิมทีตัวละครนี้จะใช้ชื่อว่า ชาง และใส่เสื้อคอเต่าแบบชาวจีนแท้ๆ แต่เป็นตัวของดอนนี่ เยน เองที่รู้สึกว่า ตัวละครของเขาควรจะดูดีแบบคนอื่นบ้าง จึงได้ทำการออกแบบตัวละครและเปลี่ยนชื่อใหม่ จนได้เป็นอย่างที่เราเห็นกันในเรื่อง)



ส่วนอีกคนที่เหมือนจะเป็นตัวละครเอาไว้แก้เลี่ยนแต่ก็มองข้ามไม่ได้เลยอย่าง นายไร้ตัวตนหรือ The Tracker (รับบทโดย Shamier Anderson) ก็เป็นอีกตัวละครมีบทบาทไม่น้อย โดยเขาเข้ามาเพื่อหวังจะล่าค่าหัวจอห์น วิค แต่ก็ต้องได้รับบทเรียนสำคัญกลับไป ซึ่งจุดนี้ก็ทำให้เราได้เห็นนิสัยใจคอของจอห์น วิค อีกด้านหนึ่งเหมือนกัน



จุดเด่นอีกอย่างที่ถูกยกระดับขึ้นมาและมันทำให้ภาพยนตร์ชุดนี้ดูเป็นตัวของตัวเองมาก หนีไม่พ้นเรื่องของสถานที่ที่เป็นฉากหลังของเรื่อง ที่ดูหรูหรา ตระการตา และมีความเป็นศิลปะสูงมาก ทั้งโรงแรม Continental สาขาโอซาก้าหรือสาขาเบอร์ลินเองก็ตาม หรือแม้แต่ฉากระหว่างที่ตัวละครพักจากการต่อสู้ ก็จะเป็นสถานที่ที่สวยงาม เช่น โบสถ์ ห้องโถงของโรงแรม เป็นต้น นี่ยังนับไปถึงเสื้อผ้าของตัวละครและรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ ทั้งหลาย รวมทั้งการถ่ายภาพ การจัดแสงและสี ที่ทำให้โลกของจอห์น วิค ดูหรูหรา มีสไตล์ของความเป็นชนชั้นสูง แต่กลับแฝงด้วยกลิ่นความเลือดและความตาย (ควรจะได้เข้าชิงออสการ์สาขาออกแบบงานสร้างสักครั้งเลยจริงๆ)

หากจะว่าถึงจุดที่น่าเสียดายอยู่ตรงที่ เราคาดหวังว่าจะได้เห็นโลกของนักฆ่าที่กว้างกว่านี้ในภาคนี้ แน่นอนว่าเรื่องนี้อาจจะต้องรอดูในแฟรนไชส์อย่างซีรีส์ The Continental ก็เป็นได้ นั่นเลยทำให้ตัวละคร มาร์คีส์ ของ บิล สการ์สการ์ด (Bill Skarsgård) ยังคงเป็นแค่เบี้ยตัวหนึ่งของสภาสูงเท่านั้น และนักฆ่าร่างท้วมของ สก็อตต์ แอดคินส์ (Scott Adkins) ที่ก็ไม่เข้าใจว่าพี่จะอ้วนทำไม ตรงนี้ทำให้เราเกิดความรู้สึกคล้ายๆ กับภาคก่อนว่า เป็นแค่ตัวละครที่มาเพื่อให้จอห์น วิค สู้เก็บเลเวลเท่านั้น เพราะดูยังไงจอห์น วิค ก็คงไม่แพ้ (ถึงบอกว่าตัวละครเคนนั้นมีผลอย่างมากไม่ให้ความรู้สึกแบบนี้เกิดขึ้นตลอดทั้งเรื่อง) รวมถึงในส่วนของงานสตันท์ มีหลายครั้งที่ดูเหมือนจะเข้ามาเพื่อให้ถูกโดนจัดการ บางจังหวะอาจจะดูยั้งมือไปบ้าง ซึ่งมันค่อนข้างผิดธรรมชาติ แต่ก็เข้าใจได้ว่าด้วยฉากแอคชั่นที่ยาวขนาดนี้ ย่อมต้องมีแผลเล็กๆ เกิดขึ้นเป็นธรรมดา

สรุป John Wick: Chapter 4 เป็นภาคต่อที่ถูกยกระดับขึ้นมาจนถึงขีดสุดในทุกด้าน ทั้งในด้านของฉากแอคชั่นที่จัดเต็มแทบไม่มีเวลาพักหายใจกันเลยทีเดียว และในด้านเนื้อเรื่องที่เพิ่มตัวละครของ ดอนนี่ เยน เข้ามานับว่าเป็นการสร้างมิติให้กับทั้งเรื่องได้มากเลยไปจนถึงบทสรุปที่ยอดเยี่ยมตราตรึงใจ ภายใต้งานสร้างระดับหนังมหากาพย์ที่ยิ่งใหญ่เหมาะกับบทสรุปของมือปืนที่ทั้งโลกต้องหวาดกลัวผู้นี้



ขอบคุณข้อมูล
https://movewinbet.one
ศูนย์รวมเกมสล็อตที่แจ็คพอตแตกง่ายที่สุด