ติดต่อลงโฆษณา [email protected]

ผู้เขียน หัวข้อ: ปลูกผักสวนครัว ง่ายๆ ทำได้ที่บ้าน  (อ่าน 652 ครั้ง)

0 สมาชิก และ 1 บุคคลทั่วไป กำลังดูหัวข้อนี้

ออฟไลน์ sgethai

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 299
    • ดูรายละเอียด
**ปลูกผักสวนครัว ง่ายๆ ทำได้ที่บ้าน**

การปลูกผักสวนครัวเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เนื่องจากเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซื้อผัก และเป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ นอกจากนี้ยังเป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้ง่าย แม้แต่ผู้ที่ไม่มีพื้นที่มากนักก็สามารถปลูกผักสวนครัวได้

**การเตรียมการ**

ก่อนเริ่มปลูกผักสวนครัว สิ่งแรกที่ต้องทำคือการเตรียมการ ดังนี้

* **เลือกพื้นที่ปลูก** พื้นที่ปลูกผักสวนครัวควรได้รับแสงแดดอย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวัน หากมีพื้นที่จำกัด สามารถปลูกผักสวนครัวในกระถาง หรือปลูกบนระเบียงหรือหน้าต่างก็ได้
* **เตรียมดิน** ดินสำหรับปลูกผักควรเป็นดินร่วนซุย ระบายน้ำได้ดี สามารถปรับปรุงดินด้วยปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก
* **เลือกผักที่จะปลูก** เลือกผักที่เหมาะกับสภาพอากาศและพื้นที่ปลูก เช่น หากปลูกในกระถาง ควรเลือกผักที่ปลูกง่าย เช่น ผักสวนครัวยอดนิยม เช่น ผักบุ้ง คะน้า กะเพรา โหระพา ผักชี เป็นต้น

**ขั้นตอนการปลูก**

เมื่อเตรียมการเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถเริ่มปลูกผักสวนครัวได้ ดังนี้

* **ลงเมล็ด** หากปลูกผักจากเมล็ด ควรหว่านเมล็ดลงบนดินที่เตรียมไว้ รดน้ำให้ชุ่ม และคลุมด้วยพลาสติกใสเพื่อช่วยในการงอกของเมล็ด
* **ปักชำ** หากปลูกผักจากต้นกล้า ควรนำต้นกล้าลงปลูกในกระถางหรือแปลงปลูก รดน้ำให้ชุ่ม

**การดูแลรักษา**

หลังจากปลูกผักสวนครัวแล้ว ควรดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอ ดังนี้

* **รดน้ำ** ควรรดน้ำผักเป็นประจำทุกวัน อย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง
* **ใส่ปุ๋ย** ควรใส่ปุ๋ยให้กับผักทุกๆ 1-2 สัปดาห์ โดยใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก
* **กำจัดวัชพืช** ควรกำจัดวัชพืชที่ขึ้นรอบๆ ผักเป็นประจำ เพื่อไม่ให้วัชพืชแย่งอาหารและน้ำจากผัก

**การเก็บเกี่ยว**

เมื่อผักเจริญเติบโตเต็มที่ก็สามารถเก็บเกี่ยวได้ วิธีการเก็บเกี่ยวผักขึ้นอยู่กับชนิดของผัก เช่น ผักบุ้ง คะน้า กะเพรา สามารถตัดยอดผักมารับประทานได้ ส่วนผักที่มีผลหรือหัว เช่น มะเขือ มะเขือเทศ ฟักทอง ก็สามารถเก็บเกี่ยวผลหรือหัวมารับประทานได้

**ประโยชน์ของการปลูกผักสวนครัว**

การปลูกผักสวนครัวมีประโยชน์มากมาย ดังนี้

* **เป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ** ผักสดจากสวนครัวมีคุณค่าทางโภชนาการสูง ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคต่างๆ
* **ช่วยลดค่าใช้จ่ายในการซื้อผัก** การปลูกผักสวนครัวทำให้สามารถมีผักสดๆ รับประทานได้เองโดยไม่ต้องซื้อ
* **เป็นการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์** การปลูกผักสวนครัวเป็นกิจกรรมที่ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์และช่วยผ่อนคลายความเครียด

การปลูกผักสวนครัวเป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้ง่ายและมีประโยชน์มากมาย หากใครสนใจก็สามารถเริ่มปลูกผักสวนครัวได้ตั้งแต่วันนี้
โปรโมชั่นสำหรับคุณ ลวดหนาม รั้วลวดหนาม

ออฟไลน์ sgethai

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 299
    • ดูรายละเอียด
สปก คืออะไร

สปก. ย่อมาจาก สำนักงานปลัดกระทรวงคมนาคม เป็นหน่วยงานระดับกรม สังกัดกระทรวงคมนาคม มีหน้าที่พัฒนายุทธศาสตร์และแปลงนโยบายของกระทรวงคมนาคมเป็นแผนปฏิบัติ จัดสรรทรัพยากรและบริหารราชการทั่วไป รวมทั้งงานกำกับและเร่งรัดตรวจสอบ ติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงให้บรรลุเป้าหมาย และเกิดผลสัมฤทธิ์ตามภารกิจของกระทรวง ตามกฎกระทรวง แบ่งส่วนราชการ

ภารกิจหลักของสปก.

1. พัฒนายุทธศาสตร์และแปลงนโยบายของกระทรวงคมนาคมเป็นแผนปฏิบัติ
2. จัดสรรทรัพยากรและบริหารราชการทั่วไป
3. งานกำกับและเร่งรัดตรวจสอบ
4. ติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานของหน่วยงานในสังกัดกระทรวง

โครงสร้างของสปก.

สปก. แบ่งส่วนราชการออกเป็น 11 กอง ดังนี้

กองแผน

กองแผน สปก.
กองนโยบายและยุทธศาสตร์

กองนโยบายและยุทธศาสตร์ สปก.
กองพัฒนาระบบบริหาร

กองพัฒนาระบบบริหาร สปก.
กองบริหารทรัพยากรบุคคล

กองบริหารทรัพยากรบุคคล สปก.
กองบริหารงานทั่วไป

กองบริหารงานทั่วไป สปก.
กองการต่างประเทศ

กองการต่างประเทศ สปก.
กองกฎหมาย

กองกฎหมาย สปก.
กองตรวจสอบภายใน

กองตรวจสอบภายใน สปก.
กองพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ

กองพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ สปก.
กองประชาสัมพันธ์และสื่อสารมวลชน

กองประชาสัมพันธ์และสื่อสารมวลชน สปก.
บทบาทของสปก.

สปก. มีบทบาทสำคัญในการพัฒนายุทธศาสตร์และแปลงนโยบายของกระทรวงคมนาคมเป็นแผนปฏิบัติ เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานของกระทรวงให้บรรลุเป้าหมายและเกิดผลสัมฤทธิ์ตามที่กำหนดไว้ นอกจากนี้ สปก. ยังมีบทบาทสำคัญในการกำกับและเร่งรัดตรวจสอบ ติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานของหน่วยงานในสังกัดกระทรวง เพื่อให้หน่วยงานต่างๆ ดำเนินการตามแผนยุทธศาสตร์และนโยบายของกระทรวงอย่างมีประสิทธิภาพ

ประโยชน์ของสปก.

สปก. มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนการดำเนินงานของกระทรวงคมนาคมให้บรรลุเป้าหมายและเกิดผลสัมฤทธิ์ โดยประโยชน์ของสปก. สามารถสรุปได้ดังนี้

ช่วยให้กระทรวงคมนาคมมียุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติที่ชัดเจนและสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล
ช่วยให้กระทรวงคมนาคมสามารถกำกับและเร่งรัดตรวจสอบ ติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานของหน่วยงานในสังกัดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ช่วยให้กระทรวงคมนาคมสามารถบริหารจัดการทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ
สรุป

สปก. เป็นหน่วยงานระดับกรม สังกัดกระทรวงคมนาคม มีหน้าที่สำคัญในการพัฒนายุทธศาสตร์และแปลงนโยบายของกระทรวงคมนาคมเป็นแผนปฏิบัติ จัดสรรทรัพยากรและบริหารราชการทั่วไป รวมทั้งงานกำกับและเร่งรัดตรวจสอบ ติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงให้บรรลุเป้าหมาย และเกิดผลสัมฤทธิ์ตามภารกิจของกระทรวง
โปรโมชั่นสำหรับคุณ รั้วตาข่าย ลวดหนาม

ออฟไลน์ sgethai

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 299
    • ดูรายละเอียด
ปลูกผักหลังบ้าน

การปลูกผักหลังบ้านเป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้ทุกคน ไม่ว่าจะมีพื้นที่มากหรือน้อยก็สามารถปลูกผักได้ การปลูกผักหลังบ้านเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพกายและใจ อีกทั้งยังช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายอีกด้วย

ประโยชน์ของการปลูกผักหลังบ้าน

การปลูกผักหลังบ้านมีประโยชน์มากมาย ดังนี้

เป็นแหล่งวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย ผักสดอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น วิตามินซี วิตามินเอ แคลเซียม เหล็ก เป็นต้น วิตามินและแร่ธาตุเหล่านี้มีส่วนช่วยในการบำรุงร่างกาย เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และป้องกันโรคต่างๆ
ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเรื้อรัง ผักมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันเซลล์ไม่ให้ถูกทำลายจากอนุมูลอิสระ อนุมูลอิสระเป็นสาเหตุของการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน เป็นต้น
ช่วยลดน้ำหนัก ผักมีกากใยสูง ช่วยทำให้รู้สึกอิ่มเร็ว จึงช่วยลดปริมาณอาหารและแคลอรีที่รับประทานเข้าไป ส่งผลให้น้ำหนักลดลง
เป็นกิจกรรมที่ผ่อนคลายและสร้างความสุข การปลูกผักเป็นกิจกรรมที่ช่วยให้จิตใจสงบ ผ่อนคลาย และสร้างความสุขให้กับตนเองและครอบครัว
ขั้นตอนการปลูกผักหลังบ้าน

การปลูกผักหลังบ้านสามารถทำได้ง่าย ๆ ดังนี้

เลือกพื้นที่ที่เหมาะสม พื้นที่สำหรับปลูกผักควรเป็นพื้นที่ที่มีแสงแดดส่องถึงอย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวัน
เตรียมดิน ดินสำหรับปลูกผักควรเป็นดินร่วนซุย มีอินทรียวัตถุสูง
เลือกพันธุ์ผักที่เหมาะสม เลือกพันธุ์ผักที่เหมาะกับสภาพอากาศและพื้นที่ปลูก
หว่านหรือปลูกเมล็ด หว่านหรือปลูกเมล็ดผักตามคำแนะนำของฉลากบรรจุภัณฑ์
รดน้ำและดูแลอย่างสม่ำเสมอ รดน้ำให้ผักชุ่มชื้นอยู่เสมอ และดูแลกำจัดวัชพืช
ผักที่ปลูกง่าย

ผักที่ปลูกง่าย ได้แก่ ผักสวนครัวทั่วไป เช่น ผักคะน้า ผักบุ้ง ผักกาดหอม ผักชี ต้นหอม มะเขือเทศ แตงกวา เป็นต้น ผักเหล่านี้ปลูกง่าย ดูแลไม่ยาก และสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ภายใน 1-2 เดือน

เคล็ดลับในการทำสวนปลูกผัก

ควรเลือกผักที่เหมาะกับสภาพอากาศและพื้นที่ปลูก เพื่อให้ผักเจริญเติบโตได้ดี
ควรเตรียมดินให้พร้อมก่อนปลูกผัก โดยใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงไปในดินเพื่อเพิ่มอินทรียวัตถุ
ควรรดน้ำผักอย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่ควรรดน้ำมากเกินไป เพราะจะทำให้รากผักเน่า
ควรกำจัดวัชพืชอย่างสม่ำเสมอ เพราะวัชพืชแย่งสารอาหารและน้ำจากผัก
ควรหมั่นสังเกตผัก หากพบโรคและแมลงควรรีบกำจัดให้ทันเวลา
การทำสวนปลูกผักหลังบ้านเป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้ทุกคน ไม่ว่าจะมีพื้นที่มากหรือน้อยก็สามารถปลูกผักได้ การปลูกผักหลังบ้านเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพกายและใจ อีกทั้งยังช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายอีกด้วย

โปรโมชั่นสำหรับคุณ รั้วตาข่าย ลวดหนาม

ออฟไลน์ sgethai

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 299
    • ดูรายละเอียด
**เลี้ยงสุนัข เพื่อนคู่ใจ มิตรแท้**

สุนัขเป็นสัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นสัตว์ที่แสนรู้ เชื่อง และสามารถเป็นเพื่อนคู่ใจได้เป็นอย่างดี การเลี้ยงสุนัขเป็นกิจกรรมที่สร้างความเพลิดเพลินและความสุขให้กับเจ้าของเป็นอย่างมาก

**การเตรียมการเลี้ยงสุนัข**

ก่อนเลี้ยงสุนัขควรเตรียมการดังนี้

* **ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสุนัข** ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสายพันธุ์สุนัข นิสัยและความต้องการพื้นฐานของสุนัข เพื่อให้สามารถเลี้ยงสุนัขได้อย่างเหมาะสม
* **เตรียมความพร้อมด้านสถานที่** ควรเตรียมพื้นที่สำหรับเลี้ยงสุนัขให้เพียงพอกับขนาดของสุนัข
* **เตรียมอุปกรณ์สำหรับเลี้ยงสุนัข** ควรเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับเลี้ยงสุนัข เช่น อาหาร น้ำดื่ม ชามอาหาร ชามน้ำ เปลนอน ของเล่น เป็นต้น

**การดูแลรักษาสุนัข**

การดูแลรักษาสุนัขสามารถทำได้ดังนี้

* **ให้อาหารสุนัข** ควรให้อาหารสุนัขอย่างสม่ำเสมอ อาหารสุนัขควรมีครบถ้วนทั้งโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามิน และเกลือแร่
* **ให้น้ำดื่มสุนัข** ควรให้น้ำดื่มสุนัขอย่างสะอาดและเพียงพอ
* **พาสุนัขไปเดินเล่น** ควรพาสุนัขไปเดินเล่นอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สุนัขได้ออกกำลังกายและผ่อนคลาย
* **ฝึกสอนสุนัข** ควรฝึกสอนสุนัขให้เชื่อฟังคำสั่ง เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข
* **พาสุนัขไปตรวจสุขภาพ** ควรพาสุนัขไปตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย

**ข้อดีของการเลี้ยงสุนัข**

* เป็นสัตว์เลี้ยงที่แสนรู้ เชื่อง และสามารถเป็นเพื่อนคู่ใจได้เป็นอย่างดี
* สามารถช่วยปกป้องเจ้าของจากอันตรายได้
* สามารถช่วยบำบัดความเครียดและโรคซึมเศร้าได้
* สามารถนำสุนัขไปฝึกฝนเพื่อใช้ในการช่วยเหลือต่างๆ เช่น ตำรวจ ทหาร กู้ภัย เป็นต้น

**ข้อเสียของการเลี้ยงสุนัข**

* ต้องการการดูแลเอาใจใส่อย่างสม่ำเสมอ
* อาจก่อให้เกิดปัญหาด้านมลภาวะได้ เช่น เสียงเห่า กลิ่นมูลสุนัข เป็นต้น
* อาจก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาได้ เช่น ค่าอาหาร ค่าน้ำ ค่ายา เป็นต้น

**ช่องทางการหาสุนัขมาเลี้ยง**

สามารถหาสุนัขมาเลี้ยงได้จากแหล่งต่างๆ ดังนี้

* ซื้อจากฟาร์มสุนัข
* รับเลี้ยงจากสถานสงเคราะห์สัตว์
* หามาเลี้ยงจากเพื่อนหรือญาติ

การเลี้ยงสุนัขเป็นกิจกรรมที่สร้างความเพลิดเพลินและความสุขให้กับเจ้าของเป็นอย่างมาก เพียงศึกษาข้อมูลและเตรียมการอย่างรอบคอบก็สามารถเลี้ยงสุนัขให้มีความสุขได้

โปรโมชั่นสำหรับคุณ รั้วตาข่าย ลวดหนาม

ออฟไลน์ sgethai

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 299
    • ดูรายละเอียด

**ปลูกพืชในน้ำ ง่าย สะดวก ปลอดสารพิษ**

การปลูกพืชในน้ำเป็นเทคนิคการปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน โดยนำรากของพืชมาแช่อยู่ในน้ำที่ผสมสารละลายอาหารพืช การปลูกพืชในน้ำมีข้อดีหลายประการ ดังนี้

* **ประหยัดพื้นที่** การปลูกพืชในน้ำไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่มาก สามารถปลูกได้ในพื้นที่จำกัด เช่น บนระเบียง บนโต๊ะ หรือแม้แต่ในห้องน้ำ
* **สะดวกในการดูแลรักษา** ไม่จำเป็นต้องพรวนดินหรือกำจัดวัชพืช เพียงแค่เติมน้ำและสารละลายอาหารพืชให้เพียงพอ
* **ปลอดสารพิษ** การปลูกพืชในน้ำไม่ใช้สารเคมีในการปลูก จึงปลอดภัยต่อผู้บริโภค

**วิธีการปลูกพืชในน้ำ**

การปลูกพืชในน้ำสามารถทำได้หลายวิธี ที่นิยมกัน ได้แก่

* **การปลูกพืชในแก้วน้ำ** เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด เพียงแค่นำต้นกล้าหรือเมล็ดพืชมาแช่ไว้ในแก้วน้ำที่ผสมสารละลายอาหารพืช
* **การปลูกพืชในกระถางไฮโดรโปนิกส์** เป็นวิธีที่สะดวกและสวยงาม กระถางไฮโดรโปนิกส์มีหลายรูปแบบให้เลือก วัสดุที่ใช้ปลูกพืชในกระถางไฮโดรโปนิกส์ ได้แก่ หินภูเขาไฟ หินกรวด หินโรย หรือวัสดุสังเคราะห์
* **การปลูกพืชในระบบไฮโดรโปนิกส์** เป็นระบบการปลูกพืชในน้ำที่มีอุปกรณ์และการควบคุมที่ซับซ้อนกว่าการปลูกพืชในแก้วน้ำหรือกระถางไฮโดรโปนิกส์ ระบบไฮโดรโปนิกส์มีหลายประเภทให้เลือก ที่นิยมกัน ได้แก่ ระบบหยด ระบบน้ำวน ระบบน้ำนิ่ง เป็นต้น

**พืชที่ปลูกในน้ำได้**

พืชที่ปลูกในน้ำได้มีหลายชนิด ที่นิยมปลูก ได้แก่

* **ผักใบ** เช่น ผักกาดหอม ผักบุ้งจีน ผักชี ต้นหอม คะน้า เป็นต้น
* **ผักผลไม้** เช่น แตงกวา มะเขือเทศ มะเขือยาว เป็นต้น
* **ไม้ประดับ** เช่น เศรษฐีเรือนใน ว่านหางจระเข้ เฟิร์น เป็นต้น

**การดูแลรักษาพืชที่ปลูกในน้ำ**

การดูแลรักษาพืชที่ปลูกในน้ำมีดังนี้

* **เปลี่ยนน้ำ** ควรเปลี่ยนน้ำทุก 2-3 วัน หรือเมื่อน้ำเริ่มมีตะกอน
* **เติมสารละลายอาหารพืช** ควรเติมสารละลายอาหารพืชตามคำแนะนำบนฉลาก
* **แสงแดด** พืชที่ปลูกในน้ำต้องการแสงแดดเพียงพอ ควรวางกระถางหรือแก้วน้ำปลูกพืชในที่ที่มีแสงแดดส่องถึง

การปลูกพืชในน้ำเป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้ง่าย ๆ เหมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นที่จำกัดหรือต้องการปลูกพืชปลอดสารพิษ การปลูกพืชในน้ำเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์มากมาย นอกจากจะทำให้เรามีพืชผักสด ๆ ไว้รับประทานแล้ว ยังทำให้เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับธรรมชาติและการปลูกพืชอีกด้วย

โปรโมชั่นสำหรับคุณ รั้วตาข่าย ลวดหนาม

ออฟไลน์ sgethai

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 299
    • ดูรายละเอียด
ปลูกผักหลังบ้าน

การปลูกผักหลังบ้านเป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้ทุกคน ไม่ว่าจะมีพื้นที่มากหรือน้อยก็สามารถปลูกผักได้ การปลูกผักหลังบ้านเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพกายและใจ อีกทั้งยังช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายอีกด้วย

ประโยชน์ของการปลูกผักหลังบ้าน

การปลูกผักหลังบ้านมีประโยชน์มากมาย ดังนี้

เป็นแหล่งวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย ผักสดอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น วิตามินซี วิตามินเอ แคลเซียม เหล็ก เป็นต้น วิตามินและแร่ธาตุเหล่านี้มีส่วนช่วยในการบำรุงร่างกาย เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และป้องกันโรคต่างๆ
ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเรื้อรัง ผักมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันเซลล์ไม่ให้ถูกทำลายจากอนุมูลอิสระ อนุมูลอิสระเป็นสาเหตุของการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน เป็นต้น
ช่วยลดน้ำหนัก ผักมีกากใยสูง ช่วยทำให้รู้สึกอิ่มเร็ว จึงช่วยลดปริมาณอาหารและแคลอรีที่รับประทานเข้าไป ส่งผลให้น้ำหนักลดลง
เป็นกิจกรรมที่ผ่อนคลายและสร้างความสุข การปลูกผักเป็นกิจกรรมที่ช่วยให้จิตใจสงบ ผ่อนคลาย และสร้างความสุขให้กับตนเองและครอบครัว
ขั้นตอนการปลูกผักหลังบ้าน

การปลูกผักหลังบ้านสามารถทำได้ง่าย ๆ ดังนี้

เลือกพื้นที่ที่เหมาะสม พื้นที่สำหรับปลูกผักควรเป็นพื้นที่ที่มีแสงแดดส่องถึงอย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวัน
เตรียมดิน ดินสำหรับปลูกผักควรเป็นดินร่วนซุย มีอินทรียวัตถุสูง
เลือกพันธุ์ผักที่เหมาะสม เลือกพันธุ์ผักที่เหมาะกับสภาพอากาศและพื้นที่ปลูก
หว่านหรือปลูกเมล็ด หว่านหรือปลูกเมล็ดผักตามคำแนะนำของฉลากบรรจุภัณฑ์
รดน้ำและดูแลอย่างสม่ำเสมอ รดน้ำให้ผักชุ่มชื้นอยู่เสมอ และดูแลกำจัดวัชพืช
ผักที่ปลูกง่าย

ผักที่ปลูกง่าย ได้แก่ ผักสวนครัวทั่วไป เช่น ผักคะน้า ผักบุ้ง ผักกาดหอม ผักชี ต้นหอม มะเขือเทศ แตงกวา เป็นต้น ผักเหล่านี้ปลูกง่าย ดูแลไม่ยาก และสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ภายใน 1-2 เดือน

เคล็ดลับในการทำสวนปลูกผัก

ควรเลือกผักที่เหมาะกับสภาพอากาศและพื้นที่ปลูก เพื่อให้ผักเจริญเติบโตได้ดี
ควรเตรียมดินให้พร้อมก่อนปลูกผัก โดยใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงไปในดินเพื่อเพิ่มอินทรียวัตถุ
ควรรดน้ำผักอย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่ควรรดน้ำมากเกินไป เพราะจะทำให้รากผักเน่า
ควรกำจัดวัชพืชอย่างสม่ำเสมอ เพราะวัชพืชแย่งสารอาหารและน้ำจากผัก
ควรหมั่นสังเกตผัก หากพบโรคและแมลงควรรีบกำจัดให้ทันเวลา
การทำสวนปลูกผักหลังบ้านเป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้ทุกคน ไม่ว่าจะมีพื้นที่มากหรือน้อยก็สามารถปลูกผักได้ การปลูกผักหลังบ้านเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพกายและใจ อีกทั้งยังช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายอีกด้วย

โปรโมชั่นสำหรับคุณ รั้วตาข่าย ลวดหนาม

ออฟไลน์ sgethai

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 299
    • ดูรายละเอียด
**เลี้ยงสุนัข เพื่อนคู่ใจ มิตรแท้**

สุนัขเป็นสัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นสัตว์ที่แสนรู้ เชื่อง และสามารถเป็นเพื่อนคู่ใจได้เป็นอย่างดี การเลี้ยงสุนัขเป็นกิจกรรมที่สร้างความเพลิดเพลินและความสุขให้กับเจ้าของเป็นอย่างมาก

**การเตรียมการเลี้ยงสุนัข**

ก่อนเลี้ยงสุนัขควรเตรียมการดังนี้

* **ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสุนัข** ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสายพันธุ์สุนัข นิสัยและความต้องการพื้นฐานของสุนัข เพื่อให้สามารถเลี้ยงสุนัขได้อย่างเหมาะสม
* **เตรียมความพร้อมด้านสถานที่** ควรเตรียมพื้นที่สำหรับเลี้ยงสุนัขให้เพียงพอกับขนาดของสุนัข
* **เตรียมอุปกรณ์สำหรับเลี้ยงสุนัข** ควรเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับเลี้ยงสุนัข เช่น อาหาร น้ำดื่ม ชามอาหาร ชามน้ำ เปลนอน ของเล่น เป็นต้น

**การดูแลรักษาสุนัข**

การดูแลรักษาสุนัขสามารถทำได้ดังนี้

* **ให้อาหารสุนัข** ควรให้อาหารสุนัขอย่างสม่ำเสมอ อาหารสุนัขควรมีครบถ้วนทั้งโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามิน และเกลือแร่
* **ให้น้ำดื่มสุนัข** ควรให้น้ำดื่มสุนัขอย่างสะอาดและเพียงพอ
* **พาสุนัขไปเดินเล่น** ควรพาสุนัขไปเดินเล่นอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สุนัขได้ออกกำลังกายและผ่อนคลาย
* **ฝึกสอนสุนัข** ควรฝึกสอนสุนัขให้เชื่อฟังคำสั่ง เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข
* **พาสุนัขไปตรวจสุขภาพ** ควรพาสุนัขไปตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย

**ข้อดีของการเลี้ยงสุนัข**

* เป็นสัตว์เลี้ยงที่แสนรู้ เชื่อง และสามารถเป็นเพื่อนคู่ใจได้เป็นอย่างดี
* สามารถช่วยปกป้องเจ้าของจากอันตรายได้
* สามารถช่วยบำบัดความเครียดและโรคซึมเศร้าได้
* สามารถนำสุนัขไปฝึกฝนเพื่อใช้ในการช่วยเหลือต่างๆ เช่น ตำรวจ ทหาร กู้ภัย เป็นต้น

**ข้อเสียของการเลี้ยงสุนัข**

* ต้องการการดูแลเอาใจใส่อย่างสม่ำเสมอ
* อาจก่อให้เกิดปัญหาด้านมลภาวะได้ เช่น เสียงเห่า กลิ่นมูลสุนัข เป็นต้น
* อาจก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาได้ เช่น ค่าอาหาร ค่าน้ำ ค่ายา เป็นต้น

**ช่องทางการหาสุนัขมาเลี้ยง**

สามารถหาสุนัขมาเลี้ยงได้จากแหล่งต่างๆ ดังนี้

* ซื้อจากฟาร์มสุนัข
* รับเลี้ยงจากสถานสงเคราะห์สัตว์
* หามาเลี้ยงจากเพื่อนหรือญาติ

การเลี้ยงสุนัขเป็นกิจกรรมที่สร้างความเพลิดเพลินและความสุขให้กับเจ้าของเป็นอย่างมาก เพียงศึกษาข้อมูลและเตรียมการอย่างรอบคอบก็สามารถเลี้ยงสุนัขให้มีความสุขได้

โปรโมชั่นสำหรับคุณ รั้วตาข่าย ลวดหนาม

ออฟไลน์ sgethai

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 299
    • ดูรายละเอียด
**เลี้ยงสุนัข เพื่อนคู่ใจ มิตรแท้**

สุนัขเป็นสัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นสัตว์ที่แสนรู้ เชื่อง และสามารถเป็นเพื่อนคู่ใจได้เป็นอย่างดี การเลี้ยงสุนัขเป็นกิจกรรมที่สร้างความเพลิดเพลินและความสุขให้กับเจ้าของเป็นอย่างมาก

**การเตรียมการเลี้ยงสุนัข**

ก่อนเลี้ยงสุนัขควรเตรียมการดังนี้

* **ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสุนัข** ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสายพันธุ์สุนัข นิสัยและความต้องการพื้นฐานของสุนัข เพื่อให้สามารถเลี้ยงสุนัขได้อย่างเหมาะสม
* **เตรียมความพร้อมด้านสถานที่** ควรเตรียมพื้นที่สำหรับเลี้ยงสุนัขให้เพียงพอกับขนาดของสุนัข
* **เตรียมอุปกรณ์สำหรับเลี้ยงสุนัข** ควรเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับเลี้ยงสุนัข เช่น อาหาร น้ำดื่ม ชามอาหาร ชามน้ำ เปลนอน ของเล่น เป็นต้น

**การดูแลรักษาสุนัข**

การดูแลรักษาสุนัขสามารถทำได้ดังนี้

* **ให้อาหารสุนัข** ควรให้อาหารสุนัขอย่างสม่ำเสมอ อาหารสุนัขควรมีครบถ้วนทั้งโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามิน และเกลือแร่
* **ให้น้ำดื่มสุนัข** ควรให้น้ำดื่มสุนัขอย่างสะอาดและเพียงพอ
* **พาสุนัขไปเดินเล่น** ควรพาสุนัขไปเดินเล่นอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สุนัขได้ออกกำลังกายและผ่อนคลาย
* **ฝึกสอนสุนัข** ควรฝึกสอนสุนัขให้เชื่อฟังคำสั่ง เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข
* **พาสุนัขไปตรวจสุขภาพ** ควรพาสุนัขไปตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย

**ข้อดีของการเลี้ยงสุนัข**

* เป็นสัตว์เลี้ยงที่แสนรู้ เชื่อง และสามารถเป็นเพื่อนคู่ใจได้เป็นอย่างดี
* สามารถช่วยปกป้องเจ้าของจากอันตรายได้
* สามารถช่วยบำบัดความเครียดและโรคซึมเศร้าได้
* สามารถนำสุนัขไปฝึกฝนเพื่อใช้ในการช่วยเหลือต่างๆ เช่น ตำรวจ ทหาร กู้ภัย เป็นต้น

**ข้อเสียของการเลี้ยงสุนัข**

* ต้องการการดูแลเอาใจใส่อย่างสม่ำเสมอ
* อาจก่อให้เกิดปัญหาด้านมลภาวะได้ เช่น เสียงเห่า กลิ่นมูลสุนัข เป็นต้น
* อาจก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาได้ เช่น ค่าอาหาร ค่าน้ำ ค่ายา เป็นต้น

**ช่องทางการหาสุนัขมาเลี้ยง**

สามารถหาสุนัขมาเลี้ยงได้จากแหล่งต่างๆ ดังนี้

* ซื้อจากฟาร์มสุนัข
* รับเลี้ยงจากสถานสงเคราะห์สัตว์
* หามาเลี้ยงจากเพื่อนหรือญาติ

การเลี้ยงสุนัขเป็นกิจกรรมที่สร้างความเพลิดเพลินและความสุขให้กับเจ้าของเป็นอย่างมาก เพียงศึกษาข้อมูลและเตรียมการอย่างรอบคอบก็สามารถเลี้ยงสุนัขให้มีความสุขได้

โปรโมชั่นสำหรับคุณ รั้วตาข่าย ลวดหนาม

ออฟไลน์ sgethai

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 299
    • ดูรายละเอียด
**ปลูกพืชในน้ำ ง่าย สะดวก ปลอดสารพิษ**

การปลูกพืชในน้ำเป็นเทคนิคการปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน โดยนำรากของพืชมาแช่อยู่ในน้ำที่ผสมสารละลายอาหารพืช การปลูกพืชในน้ำมีข้อดีหลายประการ ดังนี้

* **ประหยัดพื้นที่** การปลูกพืชในน้ำไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่มาก สามารถปลูกได้ในพื้นที่จำกัด เช่น บนระเบียง บนโต๊ะ หรือแม้แต่ในห้องน้ำ
* **สะดวกในการดูแลรักษา** ไม่จำเป็นต้องพรวนดินหรือกำจัดวัชพืช เพียงแค่เติมน้ำและสารละลายอาหารพืชให้เพียงพอ
* **ปลอดสารพิษ** การปลูกพืชในน้ำไม่ใช้สารเคมีในการปลูก จึงปลอดภัยต่อผู้บริโภค

**วิธีการปลูกพืชในน้ำ**

การปลูกพืชในน้ำสามารถทำได้หลายวิธี ที่นิยมกัน ได้แก่

* **การปลูกพืชในแก้วน้ำ** เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด เพียงแค่นำต้นกล้าหรือเมล็ดพืชมาแช่ไว้ในแก้วน้ำที่ผสมสารละลายอาหารพืช
* **การปลูกพืชในกระถางไฮโดรโปนิกส์** เป็นวิธีที่สะดวกและสวยงาม กระถางไฮโดรโปนิกส์มีหลายรูปแบบให้เลือก วัสดุที่ใช้ปลูกพืชในกระถางไฮโดรโปนิกส์ ได้แก่ หินภูเขาไฟ หินกรวด หินโรย หรือวัสดุสังเคราะห์
* **การปลูกพืชในระบบไฮโดรโปนิกส์** เป็นระบบการปลูกพืชในน้ำที่มีอุปกรณ์และการควบคุมที่ซับซ้อนกว่าการปลูกพืชในแก้วน้ำหรือกระถางไฮโดรโปนิกส์ ระบบไฮโดรโปนิกส์มีหลายประเภทให้เลือก ที่นิยมกัน ได้แก่ ระบบหยด ระบบน้ำวน ระบบน้ำนิ่ง เป็นต้น

**พืชที่ปลูกในน้ำได้**

พืชที่ปลูกในน้ำได้มีหลายชนิด ที่นิยมปลูก ได้แก่

* **ผักใบ** เช่น ผักกาดหอม ผักบุ้งจีน ผักชี ต้นหอม คะน้า เป็นต้น
* **ผักผลไม้** เช่น แตงกวา มะเขือเทศ มะเขือยาว เป็นต้น
* **ไม้ประดับ** เช่น เศรษฐีเรือนใน ว่านหางจระเข้ เฟิร์น เป็นต้น

**การดูแลรักษาพืชที่ปลูกในน้ำ**

การดูแลรักษาพืชที่ปลูกในน้ำมีดังนี้

* **เปลี่ยนน้ำ** ควรเปลี่ยนน้ำทุก 2-3 วัน หรือเมื่อน้ำเริ่มมีตะกอน
* **เติมสารละลายอาหารพืช** ควรเติมสารละลายอาหารพืชตามคำแนะนำบนฉลาก
* **แสงแดด** พืชที่ปลูกในน้ำต้องการแสงแดดเพียงพอ ควรวางกระถางหรือแก้วน้ำปลูกพืชในที่ที่มีแสงแดดส่องถึง

การปลูกพืชในน้ำเป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้ง่าย ๆ เหมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นที่จำกัดหรือต้องการปลูกพืชปลอดสารพิษ การปลูกพืชในน้ำเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์มากมาย นอกจากจะทำให้เรามีพืชผักสด ๆ ไว้รับประทานแล้ว ยังทำให้เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับธรรมชาติและการปลูกพืชอีกด้วย

โปรโมชั่นสำหรับคุณ รั้วตาข่าย ลวดหนาม

ออฟไลน์ sgethai

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 299
    • ดูรายละเอียด
**ปลูกพืชในน้ำ ง่าย สะดวก ปลอดสารพิษ**

การปลูกพืชในน้ำเป็นเทคนิคการปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน โดยนำรากของพืชมาแช่อยู่ในน้ำที่ผสมสารละลายอาหารพืช การปลูกพืชในน้ำมีข้อดีหลายประการ ดังนี้

* **ประหยัดพื้นที่** การปลูกพืชในน้ำไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่มาก สามารถปลูกได้ในพื้นที่จำกัด เช่น บนระเบียง บนโต๊ะ หรือแม้แต่ในห้องน้ำ
* **สะดวกในการดูแลรักษา** ไม่จำเป็นต้องพรวนดินหรือกำจัดวัชพืช เพียงแค่เติมน้ำและสารละลายอาหารพืชให้เพียงพอ
* **ปลอดสารพิษ** การปลูกพืชในน้ำไม่ใช้สารเคมีในการปลูก จึงปลอดภัยต่อผู้บริโภค

**วิธีการปลูกพืชในน้ำ**

การปลูกพืชในน้ำสามารถทำได้หลายวิธี ที่นิยมกัน ได้แก่

* **การปลูกพืชในแก้วน้ำ** เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด เพียงแค่นำต้นกล้าหรือเมล็ดพืชมาแช่ไว้ในแก้วน้ำที่ผสมสารละลายอาหารพืช
* **การปลูกพืชในกระถางไฮโดรโปนิกส์** เป็นวิธีที่สะดวกและสวยงาม กระถางไฮโดรโปนิกส์มีหลายรูปแบบให้เลือก วัสดุที่ใช้ปลูกพืชในกระถางไฮโดรโปนิกส์ ได้แก่ หินภูเขาไฟ หินกรวด หินโรย หรือวัสดุสังเคราะห์
* **การปลูกพืชในระบบไฮโดรโปนิกส์** เป็นระบบการปลูกพืชในน้ำที่มีอุปกรณ์และการควบคุมที่ซับซ้อนกว่าการปลูกพืชในแก้วน้ำหรือกระถางไฮโดรโปนิกส์ ระบบไฮโดรโปนิกส์มีหลายประเภทให้เลือก ที่นิยมกัน ได้แก่ ระบบหยด ระบบน้ำวน ระบบน้ำนิ่ง เป็นต้น

**พืชที่ปลูกในน้ำได้**

พืชที่ปลูกในน้ำได้มีหลายชนิด ที่นิยมปลูก ได้แก่

* **ผักใบ** เช่น ผักกาดหอม ผักบุ้งจีน ผักชี ต้นหอม คะน้า เป็นต้น
* **ผักผลไม้** เช่น แตงกวา มะเขือเทศ มะเขือยาว เป็นต้น
* **ไม้ประดับ** เช่น เศรษฐีเรือนใน ว่านหางจระเข้ เฟิร์น เป็นต้น

**การดูแลรักษาพืชที่ปลูกในน้ำ**

การดูแลรักษาพืชที่ปลูกในน้ำมีดังนี้

* **เปลี่ยนน้ำ** ควรเปลี่ยนน้ำทุก 2-3 วัน หรือเมื่อน้ำเริ่มมีตะกอน
* **เติมสารละลายอาหารพืช** ควรเติมสารละลายอาหารพืชตามคำแนะนำบนฉลาก
* **แสงแดด** พืชที่ปลูกในน้ำต้องการแสงแดดเพียงพอ ควรวางกระถางหรือแก้วน้ำปลูกพืชในที่ที่มีแสงแดดส่องถึง

การปลูกพืชในน้ำเป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้ง่าย ๆ เหมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นที่จำกัดหรือต้องการปลูกพืชปลอดสารพิษ การปลูกพืชในน้ำเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์มากมาย นอกจากจะทำให้เรามีพืชผักสด ๆ ไว้รับประทานแล้ว ยังทำให้เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับธรรมชาติและการปลูกพืชอีกด้วย

โปรโมชั่นสำหรับคุณ รั้วตาข่าย ลวดหนาม

ออฟไลน์ sgethai

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 299
    • ดูรายละเอียด
วิธีปลูกผักบุ้งง่าย ๆ มีพื้นที่น้อยก็ทำได้ !


  ผักบุ้งเป็นผักสวนครัวที่นำมาประกอบอาหารได้หลายอย่าง อีกทั้งยังปลูกง่ายโตเร็ว แค่ไม่กี่อาทิตย์ก็สามารถเก็บเกี่ยวได้แล้ว วิธีปลูกนั้นก็ง่ายแสนง่าย สามารถปลูกได้ทั้งแบบเพาะเมล็ดและใช้รากปักชำ แต่วันนี้เรามีวิธีปลูกผักบุ้งแบบใหม่มาฝาก โดยวิธีนี้จะเป็นวิธีปลูกผักบุ้งแบบไม่ใช้เมล็ด สามารถปลูกได้แม้มีพื้นที่น้อย แบ่งออกเป็น 2 วิธีด้วยกันคือวิธีปลูกผักบุ้งแบบใช้ดินและวิธีปลูกผักบุ้งด้วยเม็ดดินเผา ถ้าอยากรู้ว่าวิธีปลูกผักบุ้งแต่ละวิธีมีความแตกต่างกับขั้นตอนการปลูกอย่างไรบ้าง ก็ตามไปชมพร้อม ๆ กันเลยค่ะ   

อุปกรณ์

          - ผักบุ้งสดตัดราก 1 กำมือ

          - ปุ๋ยหมักและปุ๋ยมูลไส้เดือน

          - กากมะพร้าว

          - กระถางสำหรับปลูกแบบมีรู

          - จานรองกระถาง

          - เม็ดดินเผาสำหรับปลูกพืชแบบไฮโดรโปนิกส์

          - ถาดสำหรับการปลูกพืชแบบไฮโดรโปนิกส์ ก้นลึกประมาณ 5 นิ้ว
1. วิธีปลูกแบบใช้ดิน


   1. นำต้นผักบุ้งไปแช่ในถังแล้วเติมน้ำลงไปประมาณ 2 ½-3 นิ้ว ทิ้งไว้ 4–5 วัน เพื่อรอให้รากงอก

          2. นำปุ๋ยหมักและปุ๋ยมูลไส้เดือนผสมกับกากมะพร้าวผสมให้เข้ากัน แล้วตักใส่กระถางจนเกือบเต็ม

          3. ใช้มือขุดดินตรงกลางกระถางออกให้เป็นหลุม แล้วนำต้นผักบุ้งมาวางพร้อมถมดินกลบหลุมปลูกจนเกือบเต็มกระถาง จากนั้นนำจานมารองก้นกระถางไว้เพื่อกักเก็บน้ำเอาไว้

2. วิธีปลูกด้วยเม็ดดินเผา

          1. นำเม็ดดินเผาใส่ถาดปลูกเกลี่ยให้เต็มถาดแล้วเติมน้ำ ระดับน้ำไม่เต็มจนล้นหรือน้อยเกินไป

          2. ปักผักบุ้งลงในถาดปลูกให้ลึกพอประมาณ เกลี่ยเม็ดดินเผากลบราก

          3. หมั่นเปลี่ยนถ่ายน้ำอย่างสม่ำเสมอ

          หลังจากนำลงปลูกทั้ง 2 วิธีแล้ว ให้หมั่นเด็ดใบผักบุ้งส่วนล่างที่เริ่มเหี่ยวทิ้งเพื่อกระตุ้นให้เกิดใบใหม่ เพราะผักบุ้งเป็นผักที่ชอบน้ำ ฉะนั้นถ้าปลูกในกระถางควรหมั่นรดน้ำบ่อย ๆ อย่าปล่อยให้หน้าดินแห้ง และสำหรับผักบุ้งที่ปลูกด้วยวิธีไฮโดรโปนิกส์ให้หมั่นเปลี่ยนน้ำเพื่อให้ออกซิเจนหมุนเวียนไปสู่รากของผักบุ้ง และน้ำที่ใช้ต้องเป็นน้ำสะอาดนั้น ปลูกทิ้งไว้ประมาณ 2 อาทิตย์ แค่นี้ก็เก็บกินได้แล้วค่ะ

3. วิธีปลูกผักบุ้งในตะกร้า

          อุปกรณ์

          - ตะกร้ามีรูแบบโปร่งๆ 1 ใบ

          - กระบะขนาดที่ซ้อนตะกร้าลงไปได้ 1 ใบ

          - กาบมะพร้าวสับ

          - น้ำปุ๋ยไฮโดร

          - กระบะใหญ่

          - เมล็ดผักบุ้ง

          - น้ำสะอาด

          วิธีปลูกแบบใช้เมล็ด

          1. นำตะกร้าแบบมีรูมาวางซ้อนกันกับกระบะ

          2. นำกาบมะพร้าวสับใส่ตะกร้าโดยให้มีความสูงประมาณ 3/4 นิ้ว

          3. ใส่น้ำสะอาด ให้ความสูงของน้ำปริ่มกับกาบมะพร้าว

          4. โรยเมล็ดผักบุ้งอย่าให้ติดกันจนเกินไป และนำฝาหรือภาชนะมาปิดด้านบน วางในที่ร่ม ไม่ต้องตากแดด

          5. รากจะเริ่มโผล่ใน 2 วัน ในระหว่างนี้ควรสังเกตระดับน้ำ ถ้าลดลงให้เติมให้สูงเท่าเก่า ถ้าต้นเริ่มงอกแล้วก็ไม่ต้องปิดฝาแล้ว (ใบจะได้ไม่เหลือง) และเติมปุ๋ยประมาณวันที่ 5

          6. พอครบ 14 วันเติมน้ำปุ๋ยเพิ่ม และเปลี่ยนกระบะใส่น้ำเป็นขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อให้รากยาว

          7. พอครบ 3 สัปดาห์หรือ 21 วัน ต้นจะยาวประมาณ 10-12 นิ้ว แปลว่า ใกล้ตัดได้แล้ว ให้ถ่ายน้ำปุ๋ยออก และใส่น้ำสะอาดไว้ 3-5 วัน เพื่อล้างปุ๋ยตกค้างออกและตัดได้ทันที

โปรโมชั่นสำหรับคุณ รั้วตาข่าย ลวดหนาม

ออฟไลน์ sgethai

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 299
    • ดูรายละเอียด
รั้วตะแกรงเหล็กซิงค์อลู

รั้วตะแกรงเหล็กซิงค์อลู
คุณสมบัติและลักษณะ
รั้วตะแกรงเหล็กสำเร็จรูปออกแบบพิเศษ เพิ่มความแข็งแรงทนทาน ติดตั้งง่าย สะดวก รวดเร็ว ผลิตจากลวดชุบซิงค์อลู (ผสมอลูมิเนียม 10%) ตามมาตรฐานยุโรป (BS EN) กผ่านการเชื่อมด้วยเครื่องจักรเทคโนโลยีสูง ทำให้ทุกจุดของรอยเชื่อมหลอมติดแน่นเป็นเนื้อเดียวกัน ตัวเสารั้วและฝาครอบออกแบบให้สี่เหลี่ยม ผลิตจากเหล็กชุบซิงค์เคลือบสีฝุ่นเพื่อเพิ่มอายุการใช้งาน อุปกรณ์ยึดตะแกรงเหล็กกับเสารั้วด้วยตัวยึดพิเศษ Spider ผลิตจากเหล็กชุบซิงค์และเคลือบสีฝุ่น พร้อมน๊อต (Security Bolt) ผลิตจากสแตนเลส ทำให้เสารั้วกับตะแกรงเหล็กยึดกันแน่นหนา แข็งแรง ไม่หลุด และทนสนิม
วิธีการใช้งาน
สามารถใช้งานได้หลากหลาย นิยมนำมาใช้ล้อมรั้วทางด่วน รั้วสนามบิน รั้วโรงงาน รั้วที่ดิน รั้วกั้นอาณาเขต หรือแม้แต่รั้วที่อยู่อาศัย
อายุการใช้งาน
อายุการใช้งานยาวนานเมื่อเทียบกับรั้วตะแกรงเหล็กทั่วไป อายุการใช้งานนาน 10 ปี
ข้อดี
แข็งแรงทนทาน และเหนียวกว่ารั้วตะแกรงเหล็ดทั่วไป
ลักษณะผิวของลวดมีความเรียบสม่ำเสมอ ทนสนิมมากกว่ารั้วตะแกรงเหล็กชุบซิงค์ทั่วไป 14 เท่า
สามารถทนทานสนิมได้ทุกสภาพอากาศ
มีระบบป้องกันความปลอดภัยในการถอด ทำให้มั่นใจได้ว่าเสารั้วและตะแกรงเหล็กจะยึดติดกันอย่างแน่นหนา แข็งแรง ไม่หลุด
ราคาต้นทุน
เริ่มต้นเมตรละ 113 บาท (ขึ้นอยู่กับความสูงของตาข่าย)
โปรโมชั่นสำหรับคุณ รั้วตาข่าย ลวดหนาม
ที่มา https://tb.co.th/

ออฟไลน์ sgethai

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 299
    • ดูรายละเอียด
ปลูกผักหลังบ้าน

การปลูกผักหลังบ้านเป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้ทุกคน ไม่ว่าจะมีพื้นที่มากหรือน้อยก็สามารถปลูกผักได้ การปลูกผักหลังบ้านเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพกายและใจ อีกทั้งยังช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายอีกด้วย

ประโยชน์ของการปลูกผักหลังบ้าน

การปลูกผักหลังบ้านมีประโยชน์มากมาย ดังนี้

เป็นแหล่งวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย ผักสดอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น วิตามินซี วิตามินเอ แคลเซียม เหล็ก เป็นต้น วิตามินและแร่ธาตุเหล่านี้มีส่วนช่วยในการบำรุงร่างกาย เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และป้องกันโรคต่างๆ
ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเรื้อรัง ผักมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันเซลล์ไม่ให้ถูกทำลายจากอนุมูลอิสระ อนุมูลอิสระเป็นสาเหตุของการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน เป็นต้น
ช่วยลดน้ำหนัก ผักมีกากใยสูง ช่วยทำให้รู้สึกอิ่มเร็ว จึงช่วยลดปริมาณอาหารและแคลอรีที่รับประทานเข้าไป ส่งผลให้น้ำหนักลดลง
เป็นกิจกรรมที่ผ่อนคลายและสร้างความสุข การปลูกผักเป็นกิจกรรมที่ช่วยให้จิตใจสงบ ผ่อนคลาย และสร้างความสุขให้กับตนเองและครอบครัว
ขั้นตอนการปลูกผักหลังบ้าน

การปลูกผักหลังบ้านสามารถทำได้ง่าย ๆ ดังนี้

เลือกพื้นที่ที่เหมาะสม พื้นที่สำหรับปลูกผักควรเป็นพื้นที่ที่มีแสงแดดส่องถึงอย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวัน
เตรียมดิน ดินสำหรับปลูกผักควรเป็นดินร่วนซุย มีอินทรียวัตถุสูง
เลือกพันธุ์ผักที่เหมาะสม เลือกพันธุ์ผักที่เหมาะกับสภาพอากาศและพื้นที่ปลูก
หว่านหรือปลูกเมล็ด หว่านหรือปลูกเมล็ดผักตามคำแนะนำของฉลากบรรจุภัณฑ์
รดน้ำและดูแลอย่างสม่ำเสมอ รดน้ำให้ผักชุ่มชื้นอยู่เสมอ และดูแลกำจัดวัชพืช
ผักที่ปลูกง่าย

ผักที่ปลูกง่าย ได้แก่ ผักสวนครัวทั่วไป เช่น ผักคะน้า ผักบุ้ง ผักกาดหอม ผักชี ต้นหอม มะเขือเทศ แตงกวา เป็นต้น ผักเหล่านี้ปลูกง่าย ดูแลไม่ยาก และสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ภายใน 1-2 เดือน

เคล็ดลับในการทำสวนปลูกผัก

ควรเลือกผักที่เหมาะกับสภาพอากาศและพื้นที่ปลูก เพื่อให้ผักเจริญเติบโตได้ดี
ควรเตรียมดินให้พร้อมก่อนปลูกผัก โดยใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงไปในดินเพื่อเพิ่มอินทรียวัตถุ
ควรรดน้ำผักอย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่ควรรดน้ำมากเกินไป เพราะจะทำให้รากผักเน่า
ควรกำจัดวัชพืชอย่างสม่ำเสมอ เพราะวัชพืชแย่งสารอาหารและน้ำจากผัก
ควรหมั่นสังเกตผัก หากพบโรคและแมลงควรรีบกำจัดให้ทันเวลา
การทำสวนปลูกผักหลังบ้านเป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้ทุกคน ไม่ว่าจะมีพื้นที่มากหรือน้อยก็สามารถปลูกผักได้ การปลูกผักหลังบ้านเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพกายและใจ อีกทั้งยังช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายอีกด้วย

โปรโมชั่นสำหรับคุณ รั้วตาข่าย ลวดหนาม

ออฟไลน์ sgethai

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 299
    • ดูรายละเอียด
**เลี้ยงสุนัข เพื่อนคู่ใจ มิตรแท้**

สุนัขเป็นสัตว์เลี้ยงที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก เนื่องจากเป็นสัตว์ที่แสนรู้ เชื่อง และสามารถเป็นเพื่อนคู่ใจได้เป็นอย่างดี การเลี้ยงสุนัขเป็นกิจกรรมที่สร้างความเพลิดเพลินและความสุขให้กับเจ้าของเป็นอย่างมาก

**การเตรียมการเลี้ยงสุนัข**

ก่อนเลี้ยงสุนัขควรเตรียมการดังนี้

* **ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสุนัข** ควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสายพันธุ์สุนัข นิสัยและความต้องการพื้นฐานของสุนัข เพื่อให้สามารถเลี้ยงสุนัขได้อย่างเหมาะสม
* **เตรียมความพร้อมด้านสถานที่** ควรเตรียมพื้นที่สำหรับเลี้ยงสุนัขให้เพียงพอกับขนาดของสุนัข
* **เตรียมอุปกรณ์สำหรับเลี้ยงสุนัข** ควรเตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับเลี้ยงสุนัข เช่น อาหาร น้ำดื่ม ชามอาหาร ชามน้ำ เปลนอน ของเล่น เป็นต้น

**การดูแลรักษาสุนัข**

การดูแลรักษาสุนัขสามารถทำได้ดังนี้

* **ให้อาหารสุนัข** ควรให้อาหารสุนัขอย่างสม่ำเสมอ อาหารสุนัขควรมีครบถ้วนทั้งโปรตีน คาร์โบไฮเดรต ไขมัน วิตามิน และเกลือแร่
* **ให้น้ำดื่มสุนัข** ควรให้น้ำดื่มสุนัขอย่างสะอาดและเพียงพอ
* **พาสุนัขไปเดินเล่น** ควรพาสุนัขไปเดินเล่นอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สุนัขได้ออกกำลังกายและผ่อนคลาย
* **ฝึกสอนสุนัข** ควรฝึกสอนสุนัขให้เชื่อฟังคำสั่ง เพื่อให้สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุข
* **พาสุนัขไปตรวจสุขภาพ** ควรพาสุนัขไปตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการเจ็บป่วย

**ข้อดีของการเลี้ยงสุนัข**

* เป็นสัตว์เลี้ยงที่แสนรู้ เชื่อง และสามารถเป็นเพื่อนคู่ใจได้เป็นอย่างดี
* สามารถช่วยปกป้องเจ้าของจากอันตรายได้
* สามารถช่วยบำบัดความเครียดและโรคซึมเศร้าได้
* สามารถนำสุนัขไปฝึกฝนเพื่อใช้ในการช่วยเหลือต่างๆ เช่น ตำรวจ ทหาร กู้ภัย เป็นต้น

**ข้อเสียของการเลี้ยงสุนัข**

* ต้องการการดูแลเอาใจใส่อย่างสม่ำเสมอ
* อาจก่อให้เกิดปัญหาด้านมลภาวะได้ เช่น เสียงเห่า กลิ่นมูลสุนัข เป็นต้น
* อาจก่อให้เกิดค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาได้ เช่น ค่าอาหาร ค่าน้ำ ค่ายา เป็นต้น

**ช่องทางการหาสุนัขมาเลี้ยง**

สามารถหาสุนัขมาเลี้ยงได้จากแหล่งต่างๆ ดังนี้

* ซื้อจากฟาร์มสุนัข
* รับเลี้ยงจากสถานสงเคราะห์สัตว์
* หามาเลี้ยงจากเพื่อนหรือญาติ

การเลี้ยงสุนัขเป็นกิจกรรมที่สร้างความเพลิดเพลินและความสุขให้กับเจ้าของเป็นอย่างมาก เพียงศึกษาข้อมูลและเตรียมการอย่างรอบคอบก็สามารถเลี้ยงสุนัขให้มีความสุขได้

โปรโมชั่นสำหรับคุณ รั้วตาข่าย ลวดหนาม

ออฟไลน์ sgethai

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 299
    • ดูรายละเอียด
วิธีปลูกผักบุ้งง่าย ๆ มีพื้นที่น้อยก็ทำได้ !


  ผักบุ้งเป็นผักสวนครัวที่นำมาประกอบอาหารได้หลายอย่าง อีกทั้งยังปลูกง่ายโตเร็ว แค่ไม่กี่อาทิตย์ก็สามารถเก็บเกี่ยวได้แล้ว วิธีปลูกนั้นก็ง่ายแสนง่าย สามารถปลูกได้ทั้งแบบเพาะเมล็ดและใช้รากปักชำ แต่วันนี้เรามีวิธีปลูกผักบุ้งแบบใหม่มาฝาก โดยวิธีนี้จะเป็นวิธีปลูกผักบุ้งแบบไม่ใช้เมล็ด สามารถปลูกได้แม้มีพื้นที่น้อย แบ่งออกเป็น 2 วิธีด้วยกันคือวิธีปลูกผักบุ้งแบบใช้ดินและวิธีปลูกผักบุ้งด้วยเม็ดดินเผา ถ้าอยากรู้ว่าวิธีปลูกผักบุ้งแต่ละวิธีมีความแตกต่างกับขั้นตอนการปลูกอย่างไรบ้าง ก็ตามไปชมพร้อม ๆ กันเลยค่ะ   

อุปกรณ์

          - ผักบุ้งสดตัดราก 1 กำมือ

          - ปุ๋ยหมักและปุ๋ยมูลไส้เดือน

          - กากมะพร้าว

          - กระถางสำหรับปลูกแบบมีรู

          - จานรองกระถาง

          - เม็ดดินเผาสำหรับปลูกพืชแบบไฮโดรโปนิกส์

          - ถาดสำหรับการปลูกพืชแบบไฮโดรโปนิกส์ ก้นลึกประมาณ 5 นิ้ว
1. วิธีปลูกแบบใช้ดิน


   1. นำต้นผักบุ้งไปแช่ในถังแล้วเติมน้ำลงไปประมาณ 2 ½-3 นิ้ว ทิ้งไว้ 4–5 วัน เพื่อรอให้รากงอก

          2. นำปุ๋ยหมักและปุ๋ยมูลไส้เดือนผสมกับกากมะพร้าวผสมให้เข้ากัน แล้วตักใส่กระถางจนเกือบเต็ม

          3. ใช้มือขุดดินตรงกลางกระถางออกให้เป็นหลุม แล้วนำต้นผักบุ้งมาวางพร้อมถมดินกลบหลุมปลูกจนเกือบเต็มกระถาง จากนั้นนำจานมารองก้นกระถางไว้เพื่อกักเก็บน้ำเอาไว้

2. วิธีปลูกด้วยเม็ดดินเผา

          1. นำเม็ดดินเผาใส่ถาดปลูกเกลี่ยให้เต็มถาดแล้วเติมน้ำ ระดับน้ำไม่เต็มจนล้นหรือน้อยเกินไป

          2. ปักผักบุ้งลงในถาดปลูกให้ลึกพอประมาณ เกลี่ยเม็ดดินเผากลบราก

          3. หมั่นเปลี่ยนถ่ายน้ำอย่างสม่ำเสมอ

          หลังจากนำลงปลูกทั้ง 2 วิธีแล้ว ให้หมั่นเด็ดใบผักบุ้งส่วนล่างที่เริ่มเหี่ยวทิ้งเพื่อกระตุ้นให้เกิดใบใหม่ เพราะผักบุ้งเป็นผักที่ชอบน้ำ ฉะนั้นถ้าปลูกในกระถางควรหมั่นรดน้ำบ่อย ๆ อย่าปล่อยให้หน้าดินแห้ง และสำหรับผักบุ้งที่ปลูกด้วยวิธีไฮโดรโปนิกส์ให้หมั่นเปลี่ยนน้ำเพื่อให้ออกซิเจนหมุนเวียนไปสู่รากของผักบุ้ง และน้ำที่ใช้ต้องเป็นน้ำสะอาดนั้น ปลูกทิ้งไว้ประมาณ 2 อาทิตย์ แค่นี้ก็เก็บกินได้แล้วค่ะ

3. วิธีปลูกผักบุ้งในตะกร้า

          อุปกรณ์

          - ตะกร้ามีรูแบบโปร่งๆ 1 ใบ

          - กระบะขนาดที่ซ้อนตะกร้าลงไปได้ 1 ใบ

          - กาบมะพร้าวสับ

          - น้ำปุ๋ยไฮโดร

          - กระบะใหญ่

          - เมล็ดผักบุ้ง

          - น้ำสะอาด

          วิธีปลูกแบบใช้เมล็ด

          1. นำตะกร้าแบบมีรูมาวางซ้อนกันกับกระบะ

          2. นำกาบมะพร้าวสับใส่ตะกร้าโดยให้มีความสูงประมาณ 3/4 นิ้ว

          3. ใส่น้ำสะอาด ให้ความสูงของน้ำปริ่มกับกาบมะพร้าว

          4. โรยเมล็ดผักบุ้งอย่าให้ติดกันจนเกินไป และนำฝาหรือภาชนะมาปิดด้านบน วางในที่ร่ม ไม่ต้องตากแดด

          5. รากจะเริ่มโผล่ใน 2 วัน ในระหว่างนี้ควรสังเกตระดับน้ำ ถ้าลดลงให้เติมให้สูงเท่าเก่า ถ้าต้นเริ่มงอกแล้วก็ไม่ต้องปิดฝาแล้ว (ใบจะได้ไม่เหลือง) และเติมปุ๋ยประมาณวันที่ 5

          6. พอครบ 14 วันเติมน้ำปุ๋ยเพิ่ม และเปลี่ยนกระบะใส่น้ำเป็นขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อให้รากยาว

          7. พอครบ 3 สัปดาห์หรือ 21 วัน ต้นจะยาวประมาณ 10-12 นิ้ว แปลว่า ใกล้ตัดได้แล้ว ให้ถ่ายน้ำปุ๋ยออก และใส่น้ำสะอาดไว้ 3-5 วัน เพื่อล้างปุ๋ยตกค้างออกและตัดได้ทันที

โปรโมชั่นสำหรับคุณ รั้วตาข่าย ลวดหนาม

ออฟไลน์ sgethai

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 299
    • ดูรายละเอียด
รั้วตะแกรงเหล็กซิงค์อลู

รั้วตะแกรงเหล็กซิงค์อลู
คุณสมบัติและลักษณะ
รั้วตะแกรงเหล็กสำเร็จรูปออกแบบพิเศษ เพิ่มความแข็งแรงทนทาน ติดตั้งง่าย สะดวก รวดเร็ว ผลิตจากลวดชุบซิงค์อลู (ผสมอลูมิเนียม 10%) ตามมาตรฐานยุโรป (BS EN) กผ่านการเชื่อมด้วยเครื่องจักรเทคโนโลยีสูง ทำให้ทุกจุดของรอยเชื่อมหลอมติดแน่นเป็นเนื้อเดียวกัน ตัวเสารั้วและฝาครอบออกแบบให้สี่เหลี่ยม ผลิตจากเหล็กชุบซิงค์เคลือบสีฝุ่นเพื่อเพิ่มอายุการใช้งาน อุปกรณ์ยึดตะแกรงเหล็กกับเสารั้วด้วยตัวยึดพิเศษ Spider ผลิตจากเหล็กชุบซิงค์และเคลือบสีฝุ่น พร้อมน๊อต (Security Bolt) ผลิตจากสแตนเลส ทำให้เสารั้วกับตะแกรงเหล็กยึดกันแน่นหนา แข็งแรง ไม่หลุด และทนสนิม
วิธีการใช้งาน
สามารถใช้งานได้หลากหลาย นิยมนำมาใช้ล้อมรั้วทางด่วน รั้วสนามบิน รั้วโรงงาน รั้วที่ดิน รั้วกั้นอาณาเขต หรือแม้แต่รั้วที่อยู่อาศัย
อายุการใช้งาน
อายุการใช้งานยาวนานเมื่อเทียบกับรั้วตะแกรงเหล็กทั่วไป อายุการใช้งานนาน 10 ปี
ข้อดี
แข็งแรงทนทาน และเหนียวกว่ารั้วตะแกรงเหล็ดทั่วไป
ลักษณะผิวของลวดมีความเรียบสม่ำเสมอ ทนสนิมมากกว่ารั้วตะแกรงเหล็กชุบซิงค์ทั่วไป 14 เท่า
สามารถทนทานสนิมได้ทุกสภาพอากาศ
มีระบบป้องกันความปลอดภัยในการถอด ทำให้มั่นใจได้ว่าเสารั้วและตะแกรงเหล็กจะยึดติดกันอย่างแน่นหนา แข็งแรง ไม่หลุด
ราคาต้นทุน
เริ่มต้นเมตรละ 113 บาท (ขึ้นอยู่กับความสูงของตาข่าย)
โปรโมชั่นสำหรับคุณ รั้วตาข่าย ลวดหนาม
ที่มา https://tb.co.th/

ออฟไลน์ sgethai

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 299
    • ดูรายละเอียด
ภาษีที่ดินคืออะไร

ภาษีที่ดินคือภาษีที่จัดเก็บจากเจ้าของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างตามพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 ภาษีที่ดินมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดเก็บรายได้เพื่อนำมาใช้พัฒนาท้องถิ่นและสาธารณูปโภคต่าง ๆ ให้แก่ประชาชน

ใครต้องเสียภาษีที่ดิน

บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง มีหน้าที่เสียภาษีที่ดิน ยกเว้นที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่จะได้รับยกเว้นตามประกาศกระทรวงการคลัง

อัตราภาษีที่ดิน

อัตราภาษีที่ดินแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่

ที่ดินเพื่อเกษตรกรรม อัตราภาษี 0.01%
ที่ดินเพื่อการอยู่อาศัย อัตราภาษี 0.02%
ที่ดินเพื่อพาณิชยกรรม อัตราภาษี 0.03%
ที่ดินรกร้างว่างเปล่า อัตราภาษี 0.05%
วิธีการคิดคำนวณภาษีที่ดิน

ภาษีที่ดินคำนวณจากราคาประเมินทุนทรัพย์ของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง โดยนำราคาประเมินทุนทรัพย์มาคูณด้วยอัตราภาษี ตัวอย่างเช่น ที่ดินมีราคาประเมินทุนทรัพย์ 10 ล้านบาท อัตราภาษี 0.02% ภาษีที่ดินที่ต้องชำระจึงเท่ากับ 10 ล้านบาท x 0.02% = 2,000 บาท

การชำระภาษีที่ดิน

ภาษีที่ดินจะต้องชำระภายในวันที่ 31 มกราคมของปีถัดไป หากชำระล่าช้าจะต้องเสียเบี้ยปรับร้อยละ 1.5 ของจำนวนภาษีที่ค้างชำระ

การขอลดหย่อนภาษีที่ดิน

เจ้าของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่มีรายได้น้อย สามารถขอลดหย่อนภาษีที่ดินได้ โดยจะต้องมีคุณสมบัติตรงตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด เช่น มีรายได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี มีที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่มีราคาประเมินทุนทรัพย์ไม่เกิน 1 ล้านบาท เป็นต้น

การอุทธรณ์ภาษีที่ดิน

หากเจ้าของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างไม่เห็นด้วยกับการประเมินราคาประเมินทุนทรัพย์ของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง สามารถยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการประเมินราคาประเมินทุนทรัพย์ได้ ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งการประเมิน

สรุป

ภาษีที่ดินเป็นภาษีที่จัดเก็บจากเจ้าของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง เพื่อนำมาใช้พัฒนาท้องถิ่นและสาธารณูปโภคต่าง ๆ ให้แก่ประชาชน เจ้าของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างมีหน้าที่เสียภาษีที่ดินตามอัตราที่กำหนด โดยสามารถขอลดหย่อนภาษีได้หากมีคุณสมบัติตรงตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด

โปรโมชั่นสำหรับคุณ รั้วตาข่าย ลวดหนาม

ออฟไลน์ sgethai

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 299
    • ดูรายละเอียด
**ปลูกพืชในน้ำ ง่าย สะดวก ปลอดสารพิษ**

การปลูกพืชในน้ำเป็นเทคนิคการปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน โดยนำรากของพืชมาแช่อยู่ในน้ำที่ผสมสารละลายอาหารพืช การปลูกพืชในน้ำมีข้อดีหลายประการ ดังนี้

* **ประหยัดพื้นที่** การปลูกพืชในน้ำไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่มาก สามารถปลูกได้ในพื้นที่จำกัด เช่น บนระเบียง บนโต๊ะ หรือแม้แต่ในห้องน้ำ
* **สะดวกในการดูแลรักษา** ไม่จำเป็นต้องพรวนดินหรือกำจัดวัชพืช เพียงแค่เติมน้ำและสารละลายอาหารพืชให้เพียงพอ
* **ปลอดสารพิษ** การปลูกพืชในน้ำไม่ใช้สารเคมีในการปลูก จึงปลอดภัยต่อผู้บริโภค

**วิธีการปลูกพืชในน้ำ**

การปลูกพืชในน้ำสามารถทำได้หลายวิธี ที่นิยมกัน ได้แก่

* **การปลูกพืชในแก้วน้ำ** เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด เพียงแค่นำต้นกล้าหรือเมล็ดพืชมาแช่ไว้ในแก้วน้ำที่ผสมสารละลายอาหารพืช
* **การปลูกพืชในกระถางไฮโดรโปนิกส์** เป็นวิธีที่สะดวกและสวยงาม กระถางไฮโดรโปนิกส์มีหลายรูปแบบให้เลือก วัสดุที่ใช้ปลูกพืชในกระถางไฮโดรโปนิกส์ ได้แก่ หินภูเขาไฟ หินกรวด หินโรย หรือวัสดุสังเคราะห์
* **การปลูกพืชในระบบไฮโดรโปนิกส์** เป็นระบบการปลูกพืชในน้ำที่มีอุปกรณ์และการควบคุมที่ซับซ้อนกว่าการปลูกพืชในแก้วน้ำหรือกระถางไฮโดรโปนิกส์ ระบบไฮโดรโปนิกส์มีหลายประเภทให้เลือก ที่นิยมกัน ได้แก่ ระบบหยด ระบบน้ำวน ระบบน้ำนิ่ง เป็นต้น

**พืชที่ปลูกในน้ำได้**

พืชที่ปลูกในน้ำได้มีหลายชนิด ที่นิยมปลูก ได้แก่

* **ผักใบ** เช่น ผักกาดหอม ผักบุ้งจีน ผักชี ต้นหอม คะน้า เป็นต้น
* **ผักผลไม้** เช่น แตงกวา มะเขือเทศ มะเขือยาว เป็นต้น
* **ไม้ประดับ** เช่น เศรษฐีเรือนใน ว่านหางจระเข้ เฟิร์น เป็นต้น

**การดูแลรักษาพืชที่ปลูกในน้ำ**

การดูแลรักษาพืชที่ปลูกในน้ำมีดังนี้

* **เปลี่ยนน้ำ** ควรเปลี่ยนน้ำทุก 2-3 วัน หรือเมื่อน้ำเริ่มมีตะกอน
* **เติมสารละลายอาหารพืช** ควรเติมสารละลายอาหารพืชตามคำแนะนำบนฉลาก
* **แสงแดด** พืชที่ปลูกในน้ำต้องการแสงแดดเพียงพอ ควรวางกระถางหรือแก้วน้ำปลูกพืชในที่ที่มีแสงแดดส่องถึง

การปลูกพืชในน้ำเป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้ง่าย ๆ เหมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นที่จำกัดหรือต้องการปลูกพืชปลอดสารพิษ การปลูกพืชในน้ำเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์มากมาย นอกจากจะทำให้เรามีพืชผักสด ๆ ไว้รับประทานแล้ว ยังทำให้เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับธรรมชาติและการปลูกพืชอีกด้วย

โปรโมชั่นสำหรับคุณ รั้วตาข่าย ลวดหนาม

ออฟไลน์ sgethai

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 299
    • ดูรายละเอียด
เลี้ยงไส้เดือนดิน งานวัยเกษียณทำอยู่บ้าน สร้างเงินได้

หลายท่านจะคุ้นเคยกับข้อดีของไส้เดือนในเรื่องการพรวนดินเพียงอย่างเดียว แต่ข้อดีของไส้เดือนดินยังไม่หมดแค่นี้
ยังมีมูลที่ใช้แทนปุ๋ยคอกได้เป็นอย่างดี

มูลไส้เดือนเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่มีประโยชน์จำนวนมหาศาล ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้นพืชต้องการ เมื่อผสมมูลไส้เดือนในปริมาณเล็กน้อยกับวัสดุที่จะใช้ปลูก ได้แก่ ดินผสมหรือดินในอัตราส่วน 1:4 (มูลไส้เดือน:วัสดุที่จะใช้ปลูก) ก็จะได้มูลไส้เดือนที่อุดมสมบูรณ์ ทั้งใช้ได้ทันทีและเก็บไว้ได้นาน  ซึ่งเมื่อใช้จะสร้างโอเอซิสหรือรักษาความชื้นที่เหมาะสำหรับการทำงานของแบคทีเรีย งานนี้รับผิดชอบสำหรับการย่อยสลายสารชีวภาพ แปรรูปเป็นสารอาหารที่จำเป็นสำหรับพืช

ประโยชน์ของมูลไส้เดือน

มูลไส้เดือนเต็มไปด้วยสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กที่มีประโยชน์จำนวนมหาศาล ซึ่งเป็นสิ่งที่ต้นพืชต้องการ เมื่อผสมมูลไส้เดือนในปริมาณเล็กน้อยกับวัสดุที่จะใช้ปลูก ได้แก่ ดินผสมหรือดินในอัตราส่วน 1:4 (มูลไส้เดือน:วัสดุที่จะใช้ปลูก) ก็จะได้มูลไส้เดือนที่อุดมสมบูรณ์ ทั้งใช้ได้ทันทีและเก็บไว้ได้นาน  ซึ่งเมื่อใช้จะสร้างโอเอซิสหรือรักษาความชื้นที่เหมาะสำหรับการทำงานของแบคทีเรีย งานนี้รับผิดชอบสำหรับการย่อยสลายสารชีวภาพ แปรรูปเป็นสารอาหารที่จำเป็นสำหรับพืช

แบคทีเรียในระบบย่อยอาหารของไส้เดือนจะผลิตตัวควบคุมการเติบโตของพืชและฮอร์โมนเพิ่มเติมที่รับผิดชอบสำหรับการเร่งเซลล์พืชให้ขยายและแบ่งตัว ซึ่งมีถึง 10,000 เท่าในมูลไส้เดือนมากกว่าในดินผสมทั่วไป
มูลไส้เดือนจะมีความสมบูรณ์ที่ลงตัวระหว่างสารชีวภาพและช่องว่างอากาศ ซึ่งเป็นความสมดุลที่เหมาะที่จะให้รากพืชเปราะบางชอนไชลงไปได้อย่างง่ายดายเพื่อหาสารอาหารและน้ำ ยิ่งรากมีมากเท่าไหร่ พืชก็จะสามารถรวบรวมอาหารและน้ำได้มากขึ้นเท่านั้นและทำให้พืชมีสุขภาพดีขึ้น
พืชที่ปลูกในกระถางนานๆ ปุ๋ยมูลไส้เดือนจะไม่ทำให้ดินแข็ง จึงสามารถยืดระยะเวลาการปลูกออกไปได้โดย ไม่ต้องเปลี่ยนกระถาง
ปลอดสารเคมี 100% ไม่เป็นพิษต่อคนสัตว์เลี้ยงและสภาพแวดล้อม
กรณีใช้ผสมดิน ที่เป็นดินเหนียว จะช่วยเพิ่มอากาศในดิน ทำให้ดินร่วนซุย และช่วยในการถ่ายเทน้ำและอากาศได้สะดวก
กรณีผสมดินที่เป็นดินทรายจะช่วยเพิ่มเนื้อดิน ช่วยให้ดินเก็บรักษาความชื้น และธาตุอาหารในดิน ลดการชะล้างธาตุอาหารของน้ำ
มูลไส้เดือนดินสามารถช่วยเก็บความชื้นและปลดปล่อยออกมาให้พืชอย่าง ช้าๆ เมื่อพืชต้องการยืดระยะเวลาการให้น้ำแก่พืชได้นานขึ้น
ช่วยลดปัญหาการสลายตัวของธาตุอาหารเป็นตัวปลดปล่อยธาตุอาหารอย่างช้าๆ ทำให้ประหยัดปุ๋ย ปกป้องดินไม่ให้มีสภาพโครงร้างแน่นเข็งและช่วยเติมอินทรียวัตถุในเนื้อดิน ช่วยให้ดินร่วนซุย รากพืชสามารถแพร่ขยายได้กว้าง
มูลไส้เดือนดินจะมีสารประกอบของกรดฮิวมิคซึ่งเป็นตัวกักเก็บธาตุ อาหารที่จำเป็นต่อพืชหลายชนิด เช่น ฟอสฟอรัส (P) โพแทสเซียม (K) แคลเซียม (Ca) เหล็ก (Fe) และทองแดง (Cu) ซึ่งธาตุอาหารเหล่านี้จะถูกเก็บอยู่ในโมเลกุลของกรดฮิวมิค อยู่ในรูปพร้อมใช้ และจะถูกปลดปล่อยออกมาเมื่อพืชต้องการ
มูลไส้เดือนไม่มีของแถม ที่ไม่พึงประสงค์ เช่นด้วง เชื้อราร้ายที่เขาไปทำลายพืช ไม่มีผลิตหญ้า ที่จะกลายมาเป็นมาเป็นวัชพืชในภายหลัง
มูลไส้เดือนมีโมเลกุลที่เล็กกว่า ปุ๋ยคอกทั่วไป ต้นไม้จึงดูดซับได้ง่ายและเร็วกว่า
มูลไส้เดือนเป็นปุ๋ยเย็นกว่าใช้กับต้นไม้ได้เลย ไม่ทำอันตรายกับต้นไม้ ต่างกับปุ๋ยคอกอื่น ที่ต้องผ่านการหมักก่อนถึงจะนำมาใช้ได้
โปรโมชั่นสำหรับคุณ ลวดหนาม รั้วลวดหนาม
รั้วตาข่าย ลวดหนาม

ออฟไลน์ sgethai

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 299
    • ดูรายละเอียด
สนิมเกิดจากอะไร

สนิม (rust) คือ กระบวนการทางเคมีที่เหล็กทำปฏิกิริยากับออกซิเจนในอากาศ ทำให้เกิดสารประกอบออกไซด์ของเหล็กที่เรียกว่า เฟอริกออกไซด์ (Fe2O3) มีลักษณะเป็นคราบสีน้ำตาลแดงเกาะอยู่บนผิวเหล็ก สนิมเป็นสาเหตุที่ทำให้เหล็กเสื่อมสภาพ เปราะบาง และสูญเสียความแข็งแรง

กระบวนการเกิดสนิมสามารถอธิบายได้ดังนี้

เหล็กสูญเสียอิเล็กตรอนให้กับออกซิเจนในอากาศ
อิเล็กตรอนที่เหล็กสูญเสียไปจะรวมตัวกับออกซิเจนกลายเป็นโมเลกุลของน้ำ
โมเลกุลของน้ำจะรวมตัวกับอะตอมเหล็กที่สูญเสียอิเล็กตรอนกลายเป็นสารประกอบเฟอริกออกไซด์
ปัจจัยที่เร่งให้เกิดสนิม ได้แก่

ความชื้นในอากาศ ยิ่งความชื้นในอากาศสูง สนิมก็จะเกิดขึ้นเร็วขึ้น
อุณหภูมิ ยิ่งอุณหภูมิสูงขึ้น สนิมก็จะเกิดขึ้นเร็วขึ้นเช่นกัน
สารเคมีบางชนิด เช่น เกลือ กรด ด่าง ก็สามารถเร่งให้เกิดสนิมได้
วิธีป้องกันสนิม ได้แก่

ทาสีหรือเคลือบผิวเหล็กเพื่อป้องกันไม่ให้ความชื้นและออกซิเจนสัมผัสกับผิวเหล็ก
เก็บเหล็กไว้ในที่แห้งและเย็น
หลีกเลี่ยงการใช้เหล็กในบริเวณที่มีความชื้นหรือสารเคมี
สนิมเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยกับวัสดุที่ทำจากเหล็ก หากไม่ป้องกันสนิม สนิมจะกัดกร่อนเหล็กจนเหล็กเสื่อมสภาพและอาจทำให้โครงสร้างหรืออุปกรณ์เสียหายได้
โปรโมชั่นสำหรับคุณ รั้วตาข่าย ลวดหนาม
ลวดหนาม รั้วลวดหนาม

ออฟไลน์ sgethai

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 299
    • ดูรายละเอียด
ภาษีที่ดินคืออะไร

ภาษีที่ดินคือภาษีที่จัดเก็บจากเจ้าของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างตามพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 ภาษีที่ดินมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดเก็บรายได้เพื่อนำมาใช้พัฒนาท้องถิ่นและสาธารณูปโภคต่าง ๆ ให้แก่ประชาชน

ใครต้องเสียภาษีที่ดิน

บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง มีหน้าที่เสียภาษีที่ดิน ยกเว้นที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่จะได้รับยกเว้นตามประกาศกระทรวงการคลัง

อัตราภาษีที่ดิน

อัตราภาษีที่ดินแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่

ที่ดินเพื่อเกษตรกรรม อัตราภาษี 0.01%
ที่ดินเพื่อการอยู่อาศัย อัตราภาษี 0.02%
ที่ดินเพื่อพาณิชยกรรม อัตราภาษี 0.03%
ที่ดินรกร้างว่างเปล่า อัตราภาษี 0.05%
วิธีการคิดคำนวณภาษีที่ดิน

ภาษีที่ดินคำนวณจากราคาประเมินทุนทรัพย์ของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง โดยนำราคาประเมินทุนทรัพย์มาคูณด้วยอัตราภาษี ตัวอย่างเช่น ที่ดินมีราคาประเมินทุนทรัพย์ 10 ล้านบาท อัตราภาษี 0.02% ภาษีที่ดินที่ต้องชำระจึงเท่ากับ 10 ล้านบาท x 0.02% = 2,000 บาท

การชำระภาษีที่ดิน

ภาษีที่ดินจะต้องชำระภายในวันที่ 31 มกราคมของปีถัดไป หากชำระล่าช้าจะต้องเสียเบี้ยปรับร้อยละ 1.5 ของจำนวนภาษีที่ค้างชำระ

การขอลดหย่อนภาษีที่ดิน

เจ้าของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่มีรายได้น้อย สามารถขอลดหย่อนภาษีที่ดินได้ โดยจะต้องมีคุณสมบัติตรงตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด เช่น มีรายได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี มีที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่มีราคาประเมินทุนทรัพย์ไม่เกิน 1 ล้านบาท เป็นต้น

การอุทธรณ์ภาษีที่ดิน

หากเจ้าของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างไม่เห็นด้วยกับการประเมินราคาประเมินทุนทรัพย์ของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง สามารถยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการประเมินราคาประเมินทุนทรัพย์ได้ ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งการประเมิน

สรุป

ภาษีที่ดินเป็นภาษีที่จัดเก็บจากเจ้าของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง เพื่อนำมาใช้พัฒนาท้องถิ่นและสาธารณูปโภคต่าง ๆ ให้แก่ประชาชน เจ้าของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างมีหน้าที่เสียภาษีที่ดินตามอัตราที่กำหนด โดยสามารถขอลดหย่อนภาษีได้หากมีคุณสมบัติตรงตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด

โปรโมชั่นสำหรับคุณ รั้วตาข่าย ลวดหนาม

ออฟไลน์ sgethai

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 299
    • ดูรายละเอียด
**พันธุ์ปลาที่เหมาะเลี้ยง**

การเลี้ยงปลาเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมของคนทุกเพศทุกวัย เนื่องจากเป็นกิจกรรมที่ให้ความเพลิดเพลิน ผ่อนคลาย และยังสามารถเป็นแหล่งอาหารที่ดีอีกด้วย การเลือกพันธุ์ปลาที่เหมาะเลี้ยงนั้น จะต้องคำนึงถึงปัจจัยต่าง ๆ ดังนี้

* **วัตถุประสงค์ในการเลี้ยง** ว่าต้องการเลี้ยงปลาเพื่อความสวยงาม เพื่อการบริโภค หรือเพื่อการศึกษา
* **ขนาดของสระเลี้ยง** หากเลี้ยงในสระขนาดใหญ่ ก็สามารถเลี้ยงปลาที่มีขนาดใหญ่ได้ หากเลี้ยงในสระขนาดเล็ก ควรเลี้ยงปลาที่มีขนาดเล็ก
* **อุณหภูมิของน้ำ** ปลาแต่ละสายพันธุ์จะทนต่ออุณหภูมิของน้ำที่แตกต่างกัน
* **ปริมาณออกซิเจนในน้ำ** ปลาแต่ละสายพันธุ์ต้องการปริมาณออกซิเจนในน้ำที่แตกต่างกัน
* **ความเค็มของน้ำ** ปลาแต่ละสายพันธุ์ต้องการความเค็มของน้ำที่แตกต่างกัน
* **พฤติกรรมของปลา** ปลาแต่ละสายพันธุ์มีพฤติกรรมที่แตกต่างกัน เช่น ปลาบางชนิดชอบอยู่รวมกันเป็นฝูง ปลาบางชนิดชอบอยู่ตามลำพัง

**พันธุ์ปลาที่นิยมเลี้ยง**

พันธุ์ปลาที่นิยมเลี้ยงในประเทศไทยมีมากมาย ดังนี้

* **ปลาสวยงาม** เช่น ปลาทอง ปลาหางนกยูง ปลาสอด ปลาหมอสี ปลากัด เป็นต้น
* **ปลาเศรษฐกิจ** เช่น ปลานิล ปลาดุก ปลาตะเพียน ปลาช่อน เป็นต้น
* **ปลาอื่น ๆ** เช่น ปลากะพง ปลาเก๋า ปลาหมอทะเล เป็นต้น

**ตัวอย่างพันธุ์ปลาที่เหมาะเลี้ยง**

* **ปลาทอง** เป็นปลาที่เลี้ยงง่าย ทนต่อสภาพอากาศได้ดี เหมาะสำหรับการเลี้ยงในสระขนาดเล็ก
* **ปลาหางนกยูง** เป็นปลาที่เลี้ยงง่าย ทนต่อสภาพอากาศได้ดี เหมาะสำหรับการเลี้ยงในสระขนาดเล็ก
* **ปลาสอด** เป็นปลาที่เลี้ยงง่าย ทนต่อสภาพอากาศได้ดี เหมาะสำหรับการเลี้ยงในสระขนาดเล็ก
* **ปลาหมอสี** เป็นปลาที่เลี้ยงง่าย ทนต่อสภาพอากาศได้ดี เหมาะสำหรับการเลี้ยงในสระขนาดใหญ่
* **ปลากัด** เป็นปลาที่เลี้ยงง่าย ทนต่อสภาพอากาศได้ดี เหมาะสำหรับการเลี้ยงในภาชนะขนาดเล็ก

**ข้อควรระวังในการเลี้ยงปลา**

* ควรหมั่นทำความสะอาดสระเลี้ยงปลาอย่างสม่ำเสมอ เพื่อป้องกันการสะสมของสิ่งสกปรกที่อาจทำให้เกิดโรคในปลา
* ควรให้อาหารปลาในปริมาณที่เหมาะสม ไม่มากหรือน้อยเกินไป
* ควรสังเกตพฤติกรรมของปลา หากพบปลาที่มีอาการผิดปกติ ควรรีบแยกเลี้ยงและรักษา

การเลือกพันธุ์ปลาที่เหมาะเลี้ยงนั้น มีความสำคัญต่อความสำเร็จในการเลี้ยงปลา หากเลือกพันธุ์ปลาที่เหมาะสมกับสภาพพื้นที่และวัตถุประสงค์ในการเลี้ยง จะช่วยให้ปลาเจริญเติบโตได้ดีและลดความเสี่ยงในการเกิดโรค

โปรโมชั่นสำหรับคุณ ลวดหนาม รั้วลวดหนาม
รั้วตาข่าย ลวดหนาม

ออฟไลน์ sgethai

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 299
    • ดูรายละเอียด
**ปลูกพืชในน้ำ ง่าย สะดวก ปลอดสารพิษ**

การปลูกพืชในน้ำเป็นเทคนิคการปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน โดยนำรากของพืชมาแช่อยู่ในน้ำที่ผสมสารละลายอาหารพืช การปลูกพืชในน้ำมีข้อดีหลายประการ ดังนี้

* **ประหยัดพื้นที่** การปลูกพืชในน้ำไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่มาก สามารถปลูกได้ในพื้นที่จำกัด เช่น บนระเบียง บนโต๊ะ หรือแม้แต่ในห้องน้ำ
* **สะดวกในการดูแลรักษา** ไม่จำเป็นต้องพรวนดินหรือกำจัดวัชพืช เพียงแค่เติมน้ำและสารละลายอาหารพืชให้เพียงพอ
* **ปลอดสารพิษ** การปลูกพืชในน้ำไม่ใช้สารเคมีในการปลูก จึงปลอดภัยต่อผู้บริโภค

**วิธีการปลูกพืชในน้ำ**

การปลูกพืชในน้ำสามารถทำได้หลายวิธี ที่นิยมกัน ได้แก่

* **การปลูกพืชในแก้วน้ำ** เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด เพียงแค่นำต้นกล้าหรือเมล็ดพืชมาแช่ไว้ในแก้วน้ำที่ผสมสารละลายอาหารพืช
* **การปลูกพืชในกระถางไฮโดรโปนิกส์** เป็นวิธีที่สะดวกและสวยงาม กระถางไฮโดรโปนิกส์มีหลายรูปแบบให้เลือก วัสดุที่ใช้ปลูกพืชในกระถางไฮโดรโปนิกส์ ได้แก่ หินภูเขาไฟ หินกรวด หินโรย หรือวัสดุสังเคราะห์
* **การปลูกพืชในระบบไฮโดรโปนิกส์** เป็นระบบการปลูกพืชในน้ำที่มีอุปกรณ์และการควบคุมที่ซับซ้อนกว่าการปลูกพืชในแก้วน้ำหรือกระถางไฮโดรโปนิกส์ ระบบไฮโดรโปนิกส์มีหลายประเภทให้เลือก ที่นิยมกัน ได้แก่ ระบบหยด ระบบน้ำวน ระบบน้ำนิ่ง เป็นต้น

**พืชที่ปลูกในน้ำได้**

พืชที่ปลูกในน้ำได้มีหลายชนิด ที่นิยมปลูก ได้แก่

* **ผักใบ** เช่น ผักกาดหอม ผักบุ้งจีน ผักชี ต้นหอม คะน้า เป็นต้น
* **ผักผลไม้** เช่น แตงกวา มะเขือเทศ มะเขือยาว เป็นต้น
* **ไม้ประดับ** เช่น เศรษฐีเรือนใน ว่านหางจระเข้ เฟิร์น เป็นต้น

**การดูแลรักษาพืชที่ปลูกในน้ำ**

การดูแลรักษาพืชที่ปลูกในน้ำมีดังนี้

* **เปลี่ยนน้ำ** ควรเปลี่ยนน้ำทุก 2-3 วัน หรือเมื่อน้ำเริ่มมีตะกอน
* **เติมสารละลายอาหารพืช** ควรเติมสารละลายอาหารพืชตามคำแนะนำบนฉลาก
* **แสงแดด** พืชที่ปลูกในน้ำต้องการแสงแดดเพียงพอ ควรวางกระถางหรือแก้วน้ำปลูกพืชในที่ที่มีแสงแดดส่องถึง

การปลูกพืชในน้ำเป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้ง่าย ๆ เหมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นที่จำกัดหรือต้องการปลูกพืชปลอดสารพิษ การปลูกพืชในน้ำเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์มากมาย นอกจากจะทำให้เรามีพืชผักสด ๆ ไว้รับประทานแล้ว ยังทำให้เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับธรรมชาติและการปลูกพืชอีกด้วย

โปรโมชั่นสำหรับคุณ รั้วตาข่าย ลวดหนาม

ออฟไลน์ sgethai

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 299
    • ดูรายละเอียด
สนิมเกิดจากอะไร

สนิม (rust) คือ กระบวนการทางเคมีที่เหล็กทำปฏิกิริยากับออกซิเจนในอากาศ ทำให้เกิดสารประกอบออกไซด์ของเหล็กที่เรียกว่า เฟอริกออกไซด์ (Fe2O3) มีลักษณะเป็นคราบสีน้ำตาลแดงเกาะอยู่บนผิวเหล็ก สนิมเป็นสาเหตุที่ทำให้เหล็กเสื่อมสภาพ เปราะบาง และสูญเสียความแข็งแรง

กระบวนการเกิดสนิมสามารถอธิบายได้ดังนี้

เหล็กสูญเสียอิเล็กตรอนให้กับออกซิเจนในอากาศ
อิเล็กตรอนที่เหล็กสูญเสียไปจะรวมตัวกับออกซิเจนกลายเป็นโมเลกุลของน้ำ
โมเลกุลของน้ำจะรวมตัวกับอะตอมเหล็กที่สูญเสียอิเล็กตรอนกลายเป็นสารประกอบเฟอริกออกไซด์
ปัจจัยที่เร่งให้เกิดสนิม ได้แก่

ความชื้นในอากาศ ยิ่งความชื้นในอากาศสูง สนิมก็จะเกิดขึ้นเร็วขึ้น
อุณหภูมิ ยิ่งอุณหภูมิสูงขึ้น สนิมก็จะเกิดขึ้นเร็วขึ้นเช่นกัน
สารเคมีบางชนิด เช่น เกลือ กรด ด่าง ก็สามารถเร่งให้เกิดสนิมได้
วิธีป้องกันสนิม ได้แก่

ทาสีหรือเคลือบผิวเหล็กเพื่อป้องกันไม่ให้ความชื้นและออกซิเจนสัมผัสกับผิวเหล็ก
เก็บเหล็กไว้ในที่แห้งและเย็น
หลีกเลี่ยงการใช้เหล็กในบริเวณที่มีความชื้นหรือสารเคมี
สนิมเป็นปัญหาที่พบได้บ่อยกับวัสดุที่ทำจากเหล็ก หากไม่ป้องกันสนิม สนิมจะกัดกร่อนเหล็กจนเหล็กเสื่อมสภาพและอาจทำให้โครงสร้างหรืออุปกรณ์เสียหายได้
โปรโมชั่นสำหรับคุณ รั้วตาข่าย ลวดหนาม
ลวดหนาม รั้วลวดหนาม

ออฟไลน์ sgethai

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 299
    • ดูรายละเอียด
**ปลูกพืชในน้ำ ง่าย สะดวก ปลอดสารพิษ**

การปลูกพืชในน้ำเป็นเทคนิคการปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน โดยนำรากของพืชมาแช่อยู่ในน้ำที่ผสมสารละลายอาหารพืช การปลูกพืชในน้ำมีข้อดีหลายประการ ดังนี้

* **ประหยัดพื้นที่** การปลูกพืชในน้ำไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่มาก สามารถปลูกได้ในพื้นที่จำกัด เช่น บนระเบียง บนโต๊ะ หรือแม้แต่ในห้องน้ำ
* **สะดวกในการดูแลรักษา** ไม่จำเป็นต้องพรวนดินหรือกำจัดวัชพืช เพียงแค่เติมน้ำและสารละลายอาหารพืชให้เพียงพอ
* **ปลอดสารพิษ** การปลูกพืชในน้ำไม่ใช้สารเคมีในการปลูก จึงปลอดภัยต่อผู้บริโภค

**วิธีการปลูกพืชในน้ำ**

การปลูกพืชในน้ำสามารถทำได้หลายวิธี ที่นิยมกัน ได้แก่

* **การปลูกพืชในแก้วน้ำ** เป็นวิธีที่ง่ายที่สุด เพียงแค่นำต้นกล้าหรือเมล็ดพืชมาแช่ไว้ในแก้วน้ำที่ผสมสารละลายอาหารพืช
* **การปลูกพืชในกระถางไฮโดรโปนิกส์** เป็นวิธีที่สะดวกและสวยงาม กระถางไฮโดรโปนิกส์มีหลายรูปแบบให้เลือก วัสดุที่ใช้ปลูกพืชในกระถางไฮโดรโปนิกส์ ได้แก่ หินภูเขาไฟ หินกรวด หินโรย หรือวัสดุสังเคราะห์
* **การปลูกพืชในระบบไฮโดรโปนิกส์** เป็นระบบการปลูกพืชในน้ำที่มีอุปกรณ์และการควบคุมที่ซับซ้อนกว่าการปลูกพืชในแก้วน้ำหรือกระถางไฮโดรโปนิกส์ ระบบไฮโดรโปนิกส์มีหลายประเภทให้เลือก ที่นิยมกัน ได้แก่ ระบบหยด ระบบน้ำวน ระบบน้ำนิ่ง เป็นต้น

**พืชที่ปลูกในน้ำได้**

พืชที่ปลูกในน้ำได้มีหลายชนิด ที่นิยมปลูก ได้แก่

* **ผักใบ** เช่น ผักกาดหอม ผักบุ้งจีน ผักชี ต้นหอม คะน้า เป็นต้น
* **ผักผลไม้** เช่น แตงกวา มะเขือเทศ มะเขือยาว เป็นต้น
* **ไม้ประดับ** เช่น เศรษฐีเรือนใน ว่านหางจระเข้ เฟิร์น เป็นต้น

**การดูแลรักษาพืชที่ปลูกในน้ำ**

การดูแลรักษาพืชที่ปลูกในน้ำมีดังนี้

* **เปลี่ยนน้ำ** ควรเปลี่ยนน้ำทุก 2-3 วัน หรือเมื่อน้ำเริ่มมีตะกอน
* **เติมสารละลายอาหารพืช** ควรเติมสารละลายอาหารพืชตามคำแนะนำบนฉลาก
* **แสงแดด** พืชที่ปลูกในน้ำต้องการแสงแดดเพียงพอ ควรวางกระถางหรือแก้วน้ำปลูกพืชในที่ที่มีแสงแดดส่องถึง

การปลูกพืชในน้ำเป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้ง่าย ๆ เหมาะสำหรับผู้ที่มีพื้นที่จำกัดหรือต้องการปลูกพืชปลอดสารพิษ การปลูกพืชในน้ำเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์มากมาย นอกจากจะทำให้เรามีพืชผักสด ๆ ไว้รับประทานแล้ว ยังทำให้เราได้เรียนรู้เกี่ยวกับธรรมชาติและการปลูกพืชอีกด้วย

โปรโมชั่นสำหรับคุณ ลวดหนาม รั้วลวดหนาม
รั้วตาข่าย ลวดหนาม

ออฟไลน์ sgethai

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 299
    • ดูรายละเอียด
ปลูกผักหลังบ้าน

การปลูกผักหลังบ้านเป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้ทุกคน ไม่ว่าจะมีพื้นที่มากหรือน้อยก็สามารถปลูกผักได้ การปลูกผักหลังบ้านเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพกายและใจ อีกทั้งยังช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายอีกด้วย

ประโยชน์ของการปลูกผักหลังบ้าน

การปลูกผักหลังบ้านมีประโยชน์มากมาย ดังนี้

เป็นแหล่งวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย ผักสดอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น วิตามินซี วิตามินเอ แคลเซียม เหล็ก เป็นต้น วิตามินและแร่ธาตุเหล่านี้มีส่วนช่วยในการบำรุงร่างกาย เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และป้องกันโรคต่างๆ
ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเรื้อรัง ผักมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันเซลล์ไม่ให้ถูกทำลายจากอนุมูลอิสระ อนุมูลอิสระเป็นสาเหตุของการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน เป็นต้น
ช่วยลดน้ำหนัก ผักมีกากใยสูง ช่วยทำให้รู้สึกอิ่มเร็ว จึงช่วยลดปริมาณอาหารและแคลอรีที่รับประทานเข้าไป ส่งผลให้น้ำหนักลดลง
เป็นกิจกรรมที่ผ่อนคลายและสร้างความสุข การปลูกผักเป็นกิจกรรมที่ช่วยให้จิตใจสงบ ผ่อนคลาย และสร้างความสุขให้กับตนเองและครอบครัว
ขั้นตอนการปลูกผักหลังบ้าน

การปลูกผักหลังบ้านสามารถทำได้ง่าย ๆ ดังนี้

เลือกพื้นที่ที่เหมาะสม พื้นที่สำหรับปลูกผักควรเป็นพื้นที่ที่มีแสงแดดส่องถึงอย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวัน
เตรียมดิน ดินสำหรับปลูกผักควรเป็นดินร่วนซุย มีอินทรียวัตถุสูง
เลือกพันธุ์ผักที่เหมาะสม เลือกพันธุ์ผักที่เหมาะกับสภาพอากาศและพื้นที่ปลูก
หว่านหรือปลูกเมล็ด หว่านหรือปลูกเมล็ดผักตามคำแนะนำของฉลากบรรจุภัณฑ์
รดน้ำและดูแลอย่างสม่ำเสมอ รดน้ำให้ผักชุ่มชื้นอยู่เสมอ และดูแลกำจัดวัชพืช
ผักที่ปลูกง่าย

ผักที่ปลูกง่าย ได้แก่ ผักสวนครัวทั่วไป เช่น ผักคะน้า ผักบุ้ง ผักกาดหอม ผักชี ต้นหอม มะเขือเทศ แตงกวา เป็นต้น ผักเหล่านี้ปลูกง่าย ดูแลไม่ยาก และสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ภายใน 1-2 เดือน

เคล็ดลับในการทำสวนปลูกผัก

ควรเลือกผักที่เหมาะกับสภาพอากาศและพื้นที่ปลูก เพื่อให้ผักเจริญเติบโตได้ดี
ควรเตรียมดินให้พร้อมก่อนปลูกผัก โดยใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงไปในดินเพื่อเพิ่มอินทรียวัตถุ
ควรรดน้ำผักอย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่ควรรดน้ำมากเกินไป เพราะจะทำให้รากผักเน่า
ควรกำจัดวัชพืชอย่างสม่ำเสมอ เพราะวัชพืชแย่งสารอาหารและน้ำจากผัก
ควรหมั่นสังเกตผัก หากพบโรคและแมลงควรรีบกำจัดให้ทันเวลา
การทำสวนปลูกผักหลังบ้านเป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้ทุกคน ไม่ว่าจะมีพื้นที่มากหรือน้อยก็สามารถปลูกผักได้ การปลูกผักหลังบ้านเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพกายและใจ อีกทั้งยังช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายอีกด้วย

โปรโมชั่นสำหรับคุณ ลวดหนาม รั้วลวดหนาม
รั้วตาข่าย ลวดหนาม

ออฟไลน์ sgethai

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 299
    • ดูรายละเอียด
ภาษีที่ดินคืออะไร

ภาษีที่ดินคือภาษีที่จัดเก็บจากเจ้าของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างตามพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 ภาษีที่ดินมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดเก็บรายได้เพื่อนำมาใช้พัฒนาท้องถิ่นและสาธารณูปโภคต่าง ๆ ให้แก่ประชาชน

ใครต้องเสียภาษีที่ดิน

บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง มีหน้าที่เสียภาษีที่ดิน ยกเว้นที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่จะได้รับยกเว้นตามประกาศกระทรวงการคลัง

อัตราภาษีที่ดิน

อัตราภาษีที่ดินแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่

ที่ดินเพื่อเกษตรกรรม อัตราภาษี 0.01%
ที่ดินเพื่อการอยู่อาศัย อัตราภาษี 0.02%
ที่ดินเพื่อพาณิชยกรรม อัตราภาษี 0.03%
ที่ดินรกร้างว่างเปล่า อัตราภาษี 0.05%
วิธีการคิดคำนวณภาษีที่ดิน

ภาษีที่ดินคำนวณจากราคาประเมินทุนทรัพย์ของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง โดยนำราคาประเมินทุนทรัพย์มาคูณด้วยอัตราภาษี ตัวอย่างเช่น ที่ดินมีราคาประเมินทุนทรัพย์ 10 ล้านบาท อัตราภาษี 0.02% ภาษีที่ดินที่ต้องชำระจึงเท่ากับ 10 ล้านบาท x 0.02% = 2,000 บาท

การชำระภาษีที่ดิน

ภาษีที่ดินจะต้องชำระภายในวันที่ 31 มกราคมของปีถัดไป หากชำระล่าช้าจะต้องเสียเบี้ยปรับร้อยละ 1.5 ของจำนวนภาษีที่ค้างชำระ

การขอลดหย่อนภาษีที่ดิน

เจ้าของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่มีรายได้น้อย สามารถขอลดหย่อนภาษีที่ดินได้ โดยจะต้องมีคุณสมบัติตรงตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด เช่น มีรายได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี มีที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่มีราคาประเมินทุนทรัพย์ไม่เกิน 1 ล้านบาท เป็นต้น

การอุทธรณ์ภาษีที่ดิน

หากเจ้าของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างไม่เห็นด้วยกับการประเมินราคาประเมินทุนทรัพย์ของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง สามารถยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการประเมินราคาประเมินทุนทรัพย์ได้ ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งการประเมิน

สรุป

ภาษีที่ดินเป็นภาษีที่จัดเก็บจากเจ้าของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง เพื่อนำมาใช้พัฒนาท้องถิ่นและสาธารณูปโภคต่าง ๆ ให้แก่ประชาชน เจ้าของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างมีหน้าที่เสียภาษีที่ดินตามอัตราที่กำหนด โดยสามารถขอลดหย่อนภาษีได้หากมีคุณสมบัติตรงตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด

โปรโมชั่นสำหรับคุณ ลวดหนาม รั้วลวดหนาม
รั้วตาข่าย ลวดหนาม

ออฟไลน์ sgethai

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 299
    • ดูรายละเอียด
ภาษีที่ดินคืออะไร

ภาษีที่ดินคือภาษีที่จัดเก็บจากเจ้าของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างตามพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 ภาษีที่ดินมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดเก็บรายได้เพื่อนำมาใช้พัฒนาท้องถิ่นและสาธารณูปโภคต่าง ๆ ให้แก่ประชาชน

ใครต้องเสียภาษีที่ดิน

บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง มีหน้าที่เสียภาษีที่ดิน ยกเว้นที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่จะได้รับยกเว้นตามประกาศกระทรวงการคลัง

อัตราภาษีที่ดิน

อัตราภาษีที่ดินแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่

ที่ดินเพื่อเกษตรกรรม อัตราภาษี 0.01%
ที่ดินเพื่อการอยู่อาศัย อัตราภาษี 0.02%
ที่ดินเพื่อพาณิชยกรรม อัตราภาษี 0.03%
ที่ดินรกร้างว่างเปล่า อัตราภาษี 0.05%
วิธีการคิดคำนวณภาษีที่ดิน

ภาษีที่ดินคำนวณจากราคาประเมินทุนทรัพย์ของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง โดยนำราคาประเมินทุนทรัพย์มาคูณด้วยอัตราภาษี ตัวอย่างเช่น ที่ดินมีราคาประเมินทุนทรัพย์ 10 ล้านบาท อัตราภาษี 0.02% ภาษีที่ดินที่ต้องชำระจึงเท่ากับ 10 ล้านบาท x 0.02% = 2,000 บาท

การชำระภาษีที่ดิน

ภาษีที่ดินจะต้องชำระภายในวันที่ 31 มกราคมของปีถัดไป หากชำระล่าช้าจะต้องเสียเบี้ยปรับร้อยละ 1.5 ของจำนวนภาษีที่ค้างชำระ

การขอลดหย่อนภาษีที่ดิน

เจ้าของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่มีรายได้น้อย สามารถขอลดหย่อนภาษีที่ดินได้ โดยจะต้องมีคุณสมบัติตรงตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด เช่น มีรายได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี มีที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่มีราคาประเมินทุนทรัพย์ไม่เกิน 1 ล้านบาท เป็นต้น

การอุทธรณ์ภาษีที่ดิน

หากเจ้าของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างไม่เห็นด้วยกับการประเมินราคาประเมินทุนทรัพย์ของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง สามารถยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการประเมินราคาประเมินทุนทรัพย์ได้ ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งการประเมิน

สรุป

ภาษีที่ดินเป็นภาษีที่จัดเก็บจากเจ้าของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง เพื่อนำมาใช้พัฒนาท้องถิ่นและสาธารณูปโภคต่าง ๆ ให้แก่ประชาชน เจ้าของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างมีหน้าที่เสียภาษีที่ดินตามอัตราที่กำหนด โดยสามารถขอลดหย่อนภาษีได้หากมีคุณสมบัติตรงตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด

โปรโมชั่นสำหรับคุณ ลวดหนาม รั้วลวดหนาม
รั้วตาข่าย ลวดหนาม

ออฟไลน์ sgethai

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 299
    • ดูรายละเอียด
ภาษีที่ดินคืออะไร

ภาษีที่ดินคือภาษีที่จัดเก็บจากเจ้าของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างตามพระราชบัญญัติภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง พ.ศ. 2562 ภาษีที่ดินมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดเก็บรายได้เพื่อนำมาใช้พัฒนาท้องถิ่นและสาธารณูปโภคต่าง ๆ ให้แก่ประชาชน

ใครต้องเสียภาษีที่ดิน

บุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลที่มีกรรมสิทธิ์ในที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง มีหน้าที่เสียภาษีที่ดิน ยกเว้นที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่จะได้รับยกเว้นตามประกาศกระทรวงการคลัง

อัตราภาษีที่ดิน

อัตราภาษีที่ดินแบ่งออกเป็น 4 ประเภท ได้แก่

ที่ดินเพื่อเกษตรกรรม อัตราภาษี 0.01%
ที่ดินเพื่อการอยู่อาศัย อัตราภาษี 0.02%
ที่ดินเพื่อพาณิชยกรรม อัตราภาษี 0.03%
ที่ดินรกร้างว่างเปล่า อัตราภาษี 0.05%
วิธีการคิดคำนวณภาษีที่ดิน

ภาษีที่ดินคำนวณจากราคาประเมินทุนทรัพย์ของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง โดยนำราคาประเมินทุนทรัพย์มาคูณด้วยอัตราภาษี ตัวอย่างเช่น ที่ดินมีราคาประเมินทุนทรัพย์ 10 ล้านบาท อัตราภาษี 0.02% ภาษีที่ดินที่ต้องชำระจึงเท่ากับ 10 ล้านบาท x 0.02% = 2,000 บาท

การชำระภาษีที่ดิน

ภาษีที่ดินจะต้องชำระภายในวันที่ 31 มกราคมของปีถัดไป หากชำระล่าช้าจะต้องเสียเบี้ยปรับร้อยละ 1.5 ของจำนวนภาษีที่ค้างชำระ

การขอลดหย่อนภาษีที่ดิน

เจ้าของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่มีรายได้น้อย สามารถขอลดหย่อนภาษีที่ดินได้ โดยจะต้องมีคุณสมบัติตรงตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด เช่น มีรายได้ไม่เกิน 100,000 บาทต่อปี มีที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างที่มีราคาประเมินทุนทรัพย์ไม่เกิน 1 ล้านบาท เป็นต้น

การอุทธรณ์ภาษีที่ดิน

หากเจ้าของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างไม่เห็นด้วยกับการประเมินราคาประเมินทุนทรัพย์ของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง สามารถยื่นอุทธรณ์ต่อคณะกรรมการประเมินราคาประเมินทุนทรัพย์ได้ ภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับแจ้งการประเมิน

สรุป

ภาษีที่ดินเป็นภาษีที่จัดเก็บจากเจ้าของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้าง เพื่อนำมาใช้พัฒนาท้องถิ่นและสาธารณูปโภคต่าง ๆ ให้แก่ประชาชน เจ้าของที่ดินหรือสิ่งปลูกสร้างมีหน้าที่เสียภาษีที่ดินตามอัตราที่กำหนด โดยสามารถขอลดหย่อนภาษีได้หากมีคุณสมบัติตรงตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด

โปรโมชั่นสำหรับคุณ ลวดหนาม รั้วลวดหนาม
รั้วตาข่าย ลวดหนาม

ออฟไลน์ sgethai

  • Sr. Member
  • ****
  • กระทู้: 299
    • ดูรายละเอียด
ผักสวนครัว

ผักสวนครัว เป็นพืชผักล้มลุกที่มีอายุการเก็บเกี่ยวสั้น มักปลูกตามครัวเรือนหรือแปลงปลูกขนาดใหญ่เพื่อการค้า โดยมีการพัฒนาสายพันธุ์ให้มีผลผลิตตามต้องการ

ประโยชน์ของผักสวนครัว

ผักสวนครัวมีประโยชน์มากมาย ดังนี้

เป็นแหล่งวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย ผักสวนครัวอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกาย เช่น วิตามินซี วิตามินเอ แคลเซียม เหล็ก เป็นต้น วิตามินและแร่ธาตุเหล่านี้มีส่วนช่วยในการบำรุงร่างกาย เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน และป้องกันโรคต่างๆ
ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรคเรื้อรัง ผักสวนครัวมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันเซลล์ไม่ให้ถูกทำลายจากอนุมูลอิสระ อนุมูลอิสระเป็นสาเหตุของการเกิดโรคเรื้อรังต่างๆ เช่น โรคมะเร็ง โรคหัวใจ โรคเบาหวาน เป็นต้น
ช่วยลดน้ำหนัก ผักสวนครัวมีกากใยสูง ช่วยทำให้รู้สึกอิ่มเร็ว จึงช่วยลดปริมาณอาหารและแคลอรีที่รับประทานเข้าไป ส่งผลให้น้ำหนักลดลง
วิธีการปลูกผักสวนครัว

การปลูกผักสวนครัวสามารถทำได้ง่าย ๆ ดังนี้

1. เลือกพื้นที่ที่เหมาะสม พื้นที่สำหรับปลูกผักควรเป็นพื้นที่ที่มีแสงแดดส่องถึงอย่างน้อย 6 ชั่วโมงต่อวัน
2. เตรียมดิน ดินสำหรับปลูกผักควรเป็นดินร่วนซุย มีอินทรียวัตถุสูง
3. เลือกพันธุ์ผักที่เหมาะสม เลือกพันธุ์ผักที่เหมาะกับสภาพอากาศและพื้นที่ปลูก
4. หว่านหรือปลูกเมล็ด หว่านหรือปลูกเมล็ดผักตามคำแนะนำของฉลากบรรจุภัณฑ์
5. รดน้ำและดูแลอย่างสม่ำเสมอ รดน้ำให้ผักชุ่มชื้นอยู่เสมอ และดูแลกำจัดวัชพืช

ผักที่ปลูกง่าย

ผักที่ปลูกง่าย ได้แก่ ผักสวนครัวทั่วไป เช่น ผักคะน้า ผักบุ้ง ผักกาดหอม ผักชี ต้นหอม มะเขือเทศ แตงกวา เป็นต้น ผักเหล่านี้ปลูกง่าย ดูแลไม่ยาก และสามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ภายใน 1-2 เดือน

เคล็ดลับในการทำสวนปลูกผัก

ควรเลือกผักที่เหมาะกับสภาพอากาศและพื้นที่ปลูก เพื่อให้ผักเจริญเติบโตได้ดี
ควรเตรียมดินให้พร้อมก่อนปลูกผัก โดยใส่ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักลงไปในดินเพื่อเพิ่มอินทรียวัตถุ
ควรรดน้ำผักอย่างสม่ำเสมอ แต่ไม่ควรรดน้ำมากเกินไป เพราะจะทำให้รากผักเน่า
ควรกำจัดวัชพืชอย่างสม่ำเสมอ เพราะวัชพืชแย่งสารอาหารและน้ำจากผัก
ควรหมั่นสังเกตผัก หากพบโรคและแมลงควรรีบกำจัดให้ทันเวลา
การทำสวนปลูกผักเป็นกิจกรรมที่สามารถทำได้ทุกคน ไม่ว่าจะมีพื้นที่มากหรือน้อยก็สามารถปลูกผักได้ การปลูกผักเป็นกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพกายและใจ อีกทั้งยังช่วยให้เราประหยัดค่าใช้จ่ายอีกด้วย

โปรโมชั่นสำหรับคุณ ลวดหนาม รั้วลวดหนาม
รั้วตาข่าย ลวดหนาม